ธาตุ ๔ มีทุกข์ อันสุขไม่หยั่งลงถึง
ข้อความต่อไปในสูตรเดียวกัน มีว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ปฐวีธาตุนี้จักมีสุขโดยส่วนเดียว อันสุขติดตามถึง อันสุขหยั่งลงถึง อันทุกข์ไม่หยั่งลงถึงแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึงเบื่อหน่ายจากปฐวีธาตุ แต่เพราะปฐวีธาตุมีทุกข์อันทุกข์ติดตามถึง อันสุขไม่หยั่งลงถึง ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเบื่อหน่ายจากปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ
เคยเบื่อไหม ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ สิ่งที่ไม่ชอบมีไหม สิ่งที่ไม่ชอบที่บ้านมีบ้างไหม มีแยะอีกเหมือนกัน ลองดูว่าเป็นธาตุดินธาตุน้ำธาตุไฟธาตุลมบ้างไหม ไม่เคยไม่ชอบอะไรเลยหรือ จริงหรือ ไม่น่าจะเป็นความจริงไปได้ที่จะมีแต่อิฏฐารมณ์ หรือความรื่นรมย์ ไม่มีอนิฏฐารมณ์ ไม่มีโทมนัส ไม่มีความไม่พอใจ
ถ้าเบื่อหรือไม่ชอบ นั่นเป็นโทมนัส ไม่ใช่ปัญญาที่เบื่อหน่ายเพราะการรู้ชัด ปฐวีธาตุมีความแช่มชื่น อะไรๆ ก็ได้ ที่เห็นที่สัมผัสที่กระทบที่อยากได้ทุกอย่าง ถ้าเป็นวัตถุแล้วล่ะก็ไม่พ้นจากดินน้ำไฟลม ส่วนที่ไม่ชอบก็เหมือนกัน ก็พิจารณาดู ก็ไม่พ้นจากดินน้ำไฟลมเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเป็นความรู้สึกที่ไม่พอใจ ไม่ใช่เกิดจากปัญญา ก็เป็นโทมนัส เป็นอกุศลจิต แต่ว่าการที่จะหน่ายคลายความยึดถือธาตุดินธาตุน้ำธาตุไฟธาตุลมเพราะสติระลึกรู้ชัดว่า เป็นแต่เพียงรูปธรรมชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นปรากฏแล้วก็หมดไปเท่านั้น นั่นจึงจะทำให้ละคลายการติดการยึดถือในนามรูปเป็นลำดับขั้นได้