แต่ละคนสะสมปัจจัยในการเจริญกุศลต่างๆกันไป
ชีวิตประจำวันของท่านผู้ฟังซึ่งเป็นผู้ที่ให้ทาน ในขณะนั้นสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตนไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล เพราะเหตุว่าแม้การให้ทาน หรือกุศลที่เป็นไปในทานในขณะนั้นก็เป็นเพราะปกตูปนิสสยปัจจัยคือทานกุศลที่ได้กระทำมาแล้วในอดีตเป็นปัจจัย
แต่ว่าชีวิตของแต่ละคนก็มีการสะสมในเรื่องสภาพธรรมทั้งจิตและเจตสิกในลักษณะต่าง ๆ เช่นบางท่านก็เป็นผู้ที่ให้ทานมากจริง มีอุปนิสัยในการให้ทาน แต่เป็นผู้ที่มีศีลน้อย หรือว่ามีสุตตะคือมีการฟัง มีการศึกษาน้อย เป็นไปตามปัจจัยอีกเหมือนกัน เพราะเหตุว่าสะสมปัจจัยที่จะกระทำทานกุศล แต่ว่าไม่ได้สะสมปัจจัยในการฟัง ในการศึกษาธรรม หรือว่าในการที่จะเจริญศีลให้มั่นคงขึ้น
หรือว่าบางท่านก็เป็นผู้ที่ศีลดี เพราะเหตุว่ามีอุปนิสัยสะสมมาในการที่จะวิรัติทุจริตทางกายทางวาจา แต่ว่าเป็นผู้ที่มีทานกุศลน้อย
นี่ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งสิ้น หรือบางท่านเป็นผู้ที่มีศีลดีแต่เมตตาน้อย เป็นไปได้ไหมคะ เพราะฉะนั้นศีลย่อมไม่มั่นคงถ้าเป็นผู้ที่ขาดเมตตา เพราะเหตุว่าบางท่านเป็นผู้ที่ไม่กระทำทุจริตทางกาย ทางวาจาเป็นปกติ แต่ว่าเป็นผู้ที่เห็นแก่ตัว ไม่ผิดศีล ไม่ได้กระทำทุจริตทางกาย ทางวาจา แต่คิดถึงแต่ความสุขของตนเอง ไม่คำนึงถึงความสุขของคนอื่น ก็แสดงว่าเป็นผู้ที่มีศีลดี แต่ว่าเป็นผู้ที่ยังขาดเมตตา
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ถ้ามีการปรารถนาความสุขของตนมากขึ้น ศีลนั้นก็ย่อมจะไม่มั่นคง เพราะเหตุว่าย่อมจะมีการกระทำทุจริตทางกาย ทางวาจาได้ ถ้ายังคงจะเป็นผู้ที่เห็นแก่ความสุขของตนเอง จนกระทั่งสามารถที่จะทำทุจริตทางกาย ทางวาจาได้
นี่ก็เป็นในขณะที่กุศลเกิดในวันหนึ่ง ๆ แล้วแต่จะเป็นกุศลประเภทของทานหรือศีลหรือการศึกษาธรรม การอบรมเจริญปัญญา