ผู้ที่เห็นคุณคือผู้ที่เข้าใจและประพฤติปฏิบัติธรรม
ท่านอาจารย์ โดย สำหรับผู้ที่เข้าใจในการเจริญสติปัฏฐาน เชิญคะ
ผู้ฟัง คำที่ว่าทำสมาธิๆ โดยมากก็เข้าใจผิด เมื่อก่อนนี้ผมก็เคยปฏิบัติๆ ไม่ใช่น้อยๆ เป็น สิบๆ ปี คือเราหลับตาทำสมาธิ แล้วเมื่อไรหนอ ธรรมมันจะเกิดขึ้น จะได้มรรคได้ผล โดยมากไปนึกเอาอย่างนั้น เพราะว่าไม่มี ปัญญา ที่จะคิด โดยมากเป็นอย่างนั้น ผมหลงมาตั้งสิบ เกือบยี่สิบปี จนกว่าได้ฟังอาจารย์ ทีนี้ ถ้าหากว่าเรารู้หลักให้ดี สมาธิตามที่ฟังๆ อาจารย์ สำคัญอยู่ที่สติเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ความโกรธ เนี่ย จมูฏ ก็ทำให้โกรธได้ เป็นต้นว่านั่งขึ้นรถเมล์ ผมชึ้นรถเมล์ ประจำ คนเบียดหนักๆ เข้า ได้กลิ่นเหม็นทำให้โกรธ หากถ้าเราไม่มีสติ พอเรามีสติขึ้นมา ตัวเราก็เหม็นเหมือนกัน ความโกรธ มันก็หายไป แล้วอย่างตา คนอื่นก็ทำให้เราโกรธได้เหมือนกัน ทีนี้เราไม่มีสตินี้ เขามองดูถูกเหยียดหยาม ความโกรธมันก็มีเหมือนกัน ผมเคยสังเกตุมาโดยมากเป็นอย่างเนี่ย
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ขณะใดที่นึกถึงพระตถาคต ขณะนั้นจะเห็นอรรถ เห็นธรรม ผู้ฟังจะเห็นได้ว่า ผู้ที่จะระลึกถึงพระคุณของพระตถาคตบ่อยๆ นั้นคือ ผู้ที่ฟังธรรมแล้วก็เข้าใจธรรม แล้วก็ประพฤติปฏิบัติธรรมด้วย ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติ ธรรม จะเห็นคุณไหมคะ ในพระธรรม ในคุณของพระผู้มีพระภาค เพียงแต่ฟังเฉยๆ แต่ยังไม่ปฏิบัติตาม ย่อมไม่สามารถจะเห็นคุณของพระผู้มีพระภาค ได้จริงๆ เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าจะได้ยินได้ฟัง ประวัติของพระผู้มีพระภาค แต่ที่จะเป็นการระลึกถึงพระคุณของพระองค์นั้น ก็ย่อมจะต้องเป็นผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรมด้วย แล้วยิ่งประพฤติปฏิบัติธรรมมากเท่าไร ก็จะเห็นพระคุณ และระลึกถึงพระคุณ ซึ่งเป็นพุทธานุสติได้ บ่อยๆ เนืองๆ เท่านั้น