ความต่างกันของผู้ที่เข้าใจการเจริญวิปัสสนา


    ผู้ฟัง เมื่อกี้นี้อาจารย์ได้กล่าวว่า มันไม่มีความต่างกันเลย ในการที่เจริญสมถภาวนา หรือวิปัสสนาภาวนา สำหรับผู้ที่เข้าใจ การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ทีนี้ผมจะขออาจารย์ช่วยอธิบาย ผู้ที่เข้าใจเจริญวิปัสสนาภาวนา แล้วเจริญสมถภาวนา ต่างกับผู้ที่เจริญสมถภาวนา ที่ไม่เข้าใจเจริญวิปัสสนา อย่างไร

    ท่านอาจารย์ ถ้าไม่เข้าใจเรื่องการเจริญวิปัสสนา ก็จะรู้เพียงลักษณะสภาพของกุศลจิต ที่สงบแต่ว่าไม่สามารถจที่จะศึกษา รู้ชัด ในสภาพที่สงบนั้นว่า ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล หรือในสภาพธรรมทั้งหมด รู้แต่เพียงว่าขณะใด เป็นอกุศลตามความเป็นจริง ขณะใดเป็นกุศล เป็นความสงบตามความเป็นจริง แต่ว่ายังเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล แต่สำหรับผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน ทุกขณะเป็นกรรมฐาน เป็นสติปัฏฐาน ข้อความใน อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอกธัมมาทิบาลี อีกนัยหนึ่ง ๑ ข้อ ๑๗๙ มีข้อความว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งที่บุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ธรรมอย่างหนึ่งคืออะไร คือพุทธานุสสติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งนี้แลอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ข้อ ๑๘๐ พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงอนุสติ ต่อไป คือ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสสติ อานาปานสติ มรณสติ กายคตาสติ อุปสมานุสสติ คือการระลึกถึงนิพพาน พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน จบวรรคที่ ๑ ถ้าอ่านเพียงผิวเผิ่น ก็จะต้องสงสัย ว่า พุทธานุสติ จะทำให้ถึงนิพพานได้อย่างไร แต่ว่าสำหรับผู้ที่เจริญสติปัฏฐาน จะเข้าใจได้ชัดเจนว่า ไม่มีอะไรเลย ที่จะนอกไปจากสภาพ นามธรรม และรูปธรรม ซึ่งเมื่ออบรมแล้ว ศึกษาแล้ว มีความรู้ชัดแล้ว ก็ย่อมจะทำให้ถึงการรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ เพราะเหตุว่าแม้ในขณะนั้นๆ ก็ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เพราะฉะนั้น ถ้าท่านผู้ ๑ ผู้ใดยังไม่เข้าใจเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน แล้วก็อ่านข้อความนี้ ย่อมสงสัย ใช่ไหมคะ ว่าทำอย่างไรถึงจะให้เป็นพุทธานุสติ ที่จะให้ เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน แต่ถ้าเข้าใจแล้ว ทุกอย่าง ทุกขณะ คะ ความสงบเกิดขึ้น ในขณะที่ ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม มีการน้อมระลึกถึง พระคุณของพระผู้มีพระภาคได้ในขณะนั้น ความคิดนึกเป็นสิ่งที่ยับยั้งไม่ได้ แล้วแต่ว่าจะคิดอะไร ในขณะที่กำลังรู้ลักษณะของนามธรรม ๑ นามธรรมใด การระลึกถึงพระพุทธคุณ มีปัจจัยก็เกิดขึ้นได้ แต่ปัญญาก็จะต้องรู้ชัดว่า แม้ ขณะนั้นก็เป็นแต่เพียงสภาพคิดนึก ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน จึงจะเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน แล้วเวลาที่สงบ เพราะระลึกถึงพุทธคุณ แล้วสติก็เกิดขึ้นระลึกรู้ว่าแม้ ขณะนั้นก็ไม่ใช่ตัวตน ขณะนั้นจะ เป็นบาทของวิปัสสนาไหมคะ ก็เป็น เพราะฉะนั้น คำว่าสมาธิ เป็นบาทของวิปัสสนาก็จะต้องเข้าใจให้ถูกต้องด้วยว่าหมายความถึง ความตั้งมั่นของความสงบ ที่ปรากฏเป็นความสงบ ขณะนั้นเป็นบาทโดยสติระลึกรู้ในสภาพที่ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ในขณะนั้น


    หมายเลข 5055
    3 ส.ค. 2567