ทุกอย่างเป็นไปตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น


    ผู้ฟัง คนที่เป็นดาวซินโดรม คนเป็นปัญญาอ่อน สภาพรู้เขาจะไม่เหมือนอย่างเรา ...

    ท่านอาจารย์ เวลาที่เราใช้คำว่า “คน” เพราะว่ามีจิต เจตสิก ไม่ใช่มีแต่รูปใช่ไหม และในภูมินี้ก็ต้องมีทั้งจิต เจตสิก รูป เรายังไม่เห็นคนซึ่งไม่มีรูปใช่ไหม เพราะฉะนั้นจึงต้องมีทั้งจิต เจตสิก และรูป จึงชื่อว่าคน แต่ว่าอะไรจะหายไปที่ว่าถ้าไม่มีจักขุปสาท จิตเห็นเกิดไม่ได้ ไม่มีโสตปสาท จิตได้ยินก็เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ว่าจิตก็หลากหลายตั้งแต่ปฏิสนธิขณะ คือขณะแรกที่เกิด ซึ่งต่อไปเราก็จะพูดถึง แต่ให้ทราบว่าทุกอย่างเป็นไปตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ ที่จะกล่าวว่าถึงแม้ไม่มีจักขุปสาทก็เห็น ถูกหรือผิด จักขุวิญญาณเป็นจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขณะใดก็ทำหน้าที่รู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏทางตา เพราะฉะนั้นคำจำกัดความมาจากการตรัสรู้ การทรงแสดง ทุกคำ เห็นแจ้งสิ่งที่ปรากฏทางตา ไม่ใช่คิดนึก เราอาจจะคิดนึกได้ แต่ขณะที่เรากำลังคิดถึงรูปหนึ่งรูปใดที่เราเคยเห็น ขณะนั้นไม่ใช่จิตที่เห็นแจ้งสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา

    เพราะฉะนั้นก็จึงเป็นความหลากหลายที่แสดงให้เห็นชัดว่า เมื่อพูดถึงจิต ก็จะต้องพูดถึงจิตโดยละเอียดแต่ละประเภทไป ไม่กล่าวรวม ถ้ากล่าวรวมก็คนปัญญาอ่อน แต่ถ้ากล่าวถึงจิต ต้องรู้เลยว่าจิตชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่ใช่เฉพาะคนปัญญาอ่อน ปลามีจิตเห็นไหม หนอนมีจิตเห็นไหม แล้วแต่ เราพูดถึงจิต เราไม่ได้พูดถึงชื่อ แต่เราพูดถึงสภาวธรรม ซึ่งมีจริงแล้วก็เกิดขึ้น ทำกิจนั้นๆ ตามลักษณะของสภาวธรรมนั้นๆ


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 11


    หมายเลข 5193
    5 ก.ย. 2567