เจริญสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา
ส่วนข้อความต่อไปก็เกื้อกูลกับท่านที่เจริญสติปัฏฐานด้วย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรราหุล เธอจงเจริญเมตตาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญเมตตาภาวนาอยู่ จักละพยาบาทได้. เธอจงเจริญกรุณาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญกรุณาภาวนาอยู่ จักละวิหิงสาได้. เธอจงเจริญมุทิตาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญมุทิตาภาวนาอยู่ จักละอรติได้. เธอจงเจริญอุเบกขาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญอุเบกขาภาวนาอยู่ จักละปฏิฆะได้. เธอจงเจริญอสุภภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญอสุภภาวนาอยู่ จักละราคะได้. เธอจงเจริญอนิจจสัญญาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญอนิจจสัญญาภาวนาอยู่ จักละอัสมิมานะได้.
ต่อจากนั้นพระผู้มีพระภาคก็ได้ให้ท่านพระราหุลเจริญอานาปานสติภาวนา พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ท่านพระราหุลมีใจยินดีชื่นชมพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค
ทำไมว่า ข้อความตอนท้ายจึงเกื้อกูลแก่การเจริญสติปัฏฐาน ที่ว่า ดูกรราหุล เธอจงเจริญเมตตาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญเมตตาภาวนาอยู่ จักละพยาบาทได้. ขณะนั้นท่านพระราหุลยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ยังมีกิเลส ตามธรรมดาของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น ยังมีความไม่พอใจ ความไม่แช่มชื่น พยาปาทะ มหิงสา อรติ ปฏิฆะ ราคะ อัสมิมานะ เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ขอให้ทราบว่าการทรงแสดงธรรมทั้งหมด เพื่ออนุเคราะห์กับทุกๆ ขณะที่เป็นปกติ ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย