ปุเรชาตปัจจัย - รูปที่เกิดก่อนเป็นปัจจัยให้นามเกิดได้
ด้วยเหตุนี้ในปัจจัยต่อไป พระผู้มีพระภาคจึงทรงแสดง “ปุเรชาตปัจจัย” ซึ่งหมายความถึง รูปธรรมซึ่งเกิดก่อนเป็นปัจจัยให้นามธรรมเกิดขึ้นในขณะที่รูปธรรมนั้นยังไม่ได้ดับไป
แสดงความสัมพันธ์และความเป็นปัจจัยกันของนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งเกิดขึ้นเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก สิ่งที่เคยคิดว่า เป็นสัตว์เป็นบุคคลเป็นวัตถุต่าง ๆ แท้ที่จริงแล้ว ในขณะที่ปรากฏทางตานั้นเป็นแต่เพียงสีสันวัณณะเป็นรูปชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถจะมองเห็นได้คือปรากฏทางตาได้
เสียงที่กำลังได้ยินนี้ ทุกท่านก็คงจะมีความคิดตามอรรถบัญญัติว่า เสียงนั้นหมายความว่าอะไร และยังรู้อรรถบัญญัติจากรูปร่างนิมิตสัณฐานว่า ใครเป็นผู้พูด แต่ว่าตามความเป็นจริงแล้ว หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคลไม่ได้ โดยพระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า ขณะจิตขณะหนึ่งซึ่งจะเกิดขึ้นเห็นก็ตาม หรือเกิดขึ้นได้ยินเสียงต่าง ๆ ก็ตาม รูปธรรมซึ่งเกิดก่อนแล้วยังไม่ดับไป ทั้ง ๆ ที่มีอายุเพียงการเกิด – ดับของจิต ๑๗ ขณะ ก็สามารถที่จะเป็นปัจจัยให้นามธรรมเกิดขึ้นในระหว่างที่รูปธรรมนั้นยังไม่ดับ
ความหมายของ “ปุเรชาต” ชาต คือ เกิด ปุเร คือ ก่อน
เพราะฉะนั้น“ปุเรชาตปัจจัย” คือ สภาพธรรมซึ่งเป็นปัจจัยโดยการเกิดก่อน ซึ่งได้แก่รูปธรรมนั่นเองเป็นปัจจัยแก่นามธรรม โดยรูปธรรมนั้นต้องเกิดก่อนนามธรรมและยังไม่ดับไป เพราะเหตุว่ารูปทุกรูปที่จะเป็นปัจจัยได้ ต้องเป็นปัจจัยเฉพาะในฐีติขณะ ไม่ใช่ในอุปาทขณะของรูป นอกจากในขณะปฏิสนธิกาลขณะเดียวเท่านั้น ซึ่งหทยวัตถุเกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิต
เพราะฉะนั้นหทยวัตถุที่เกิดพร้อมปฏิสนธิจิตเป็นปัจจัยแก่ปฏิสนธิจิตในอุปาทขณะ หลังจากปฏิสนธิขณะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปใด ๆ เป็นปัจจัยก็ตาม จะต้องเป็นปัจจัยได้เฉพาะในขณะที่เป็นฐีติขณะคือพ้นจากอุปาทขณะของรูปและรูปนั้นยังไม่ดับ จึงเป็นฐีติขณะ