คิดนึกในแต่ละวันด้วยจิตที่เป็นกุศลก็มี อกุศลก็มี


    ผู้ฟัง จากข้างต้นที่มีการกล่าว การระลึกถึงอดีตกรรมที่เคยทำไว้ หรือว่าในภพนี้ มีอยู่ ๒ ปัจจัยที่น่าจะได้พิจารณา คือ วิตกเจตสิก ถ้าหากว่าระลึกด้วยวิตกเจตสิกก็ไม่ใช่สติ แต่ถ้าหากเป็นสติปัฏฐานก็ต้องพิจารณาถึงรูปนามที่เกิดขึ้นทางทวาร ๖ เท่านั้น ใช่ หรือไม่

    ท่านอาจารย์ ขอถามว่าขณะที่ท่าน

    ผู้ฟัง ระลึก เป็นจิตชาติอะไร

    ผู้ฟัง ชาติกุศล

    ท่านอาจารย์ วันนี้คิดอะไรบ้าง ทุกๆ วันที่คิดเป็นชาติอะไร จิตคิดแน่นอน

    ผู้ฟัง กุศลก็มี อกุศลก็มี

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง เพราะฉะนั้นต้องรู้ใช่ หรือไม่ ว่าขณะที่เป็นวิบากมีทั้งกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก เพราะเหตุ คือจิตที่เป็นกุศลก็มี จิตที่เป็นอกุศลก็มี แต่ให้ทราบตามความเป็นจริง หลังจากที่วิบากจิตดับไปแล้ว หลังจากนั้นไม่ได้กล่าวว่ากี่ขณะ ก็คิด ถ้าไม่คิดจะเห็นว่าเป็นดอกไม้ ได้ หรือไม่ เป็นแต่เพียงสีต่างๆ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าชีวิตจริงวันหนึ่งๆ เราควรจะได้เข้าใจว่าไม่มีเรา เริ่มตั้งแต่การฟัง จนกระทั่งเข้าใจจริงๆ ในความละเอียดของนามธาตุ ซึ่งไม่มีรูปร่างจะปรากฏเลย แต่ก็มีกิจการงาน แล้วก็มีขณะที่เห็นบ้าง ได้ยินบ้าง รู้แจ้งอารมณ์นั้นอารมณ์นี้บ้าง เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง ให้เห็นลักษณะของจิตได้ว่าจิตเป็นนามธรรมล้วนๆ เลย ทั้งๆ ที่เป็นนามธรรม ความละเอียด ความลึกซึ้งของนามธรรม พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้โดยประการทั้งปวง ทั้งๆ ที่สิ่งนี้มองไม่เห็นเลย ดังนั้น คิดนึกเป็นอะไร

    ผู้ฟัง ก็แล้วแต่ เป็นกุศลก็มี อกุศลก็มี

    ท่านอาจารย์ คิดนึกเป็นวิบากได้ หรือไม่

    ผู้ฟัง ไม่ได้

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 20


    หมายเลข 5473
    17 ม.ค. 2567