ปัญญาไม่ใช่ไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏ
สิ่งที่ท่านผู้ฟังไม่ควรจะลืมเลย ที่จะต้องเตือนท่านบ่อยๆ ไม่ให้ความเข้าใจของท่านคลาดเคลื่อนไปก็คือว่า ปัญญานั้นไม่ใช่ไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏ บางทีถ้าเรียนให้ท่านพูดฟังทราบว่า ปัญญารู้สิ่งที่กำลังปรากฏ ก็อาจจะไม่เตือนใจท่านเท่ากับที่จะกล่าวว่า ปัญญาไม่ใช่ไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏ ใครจะไปรู้อะไรยังไงเมื่อไหร่ที่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่ใช่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่การเจริญสติปัฏฐาน ไม่สามารถที่จะประจักษ์การเกิดขึ้นระดับไปของนาม และรูปเป็นอุทยัพพยญาณได้ เพราะเหตุว่าทุกๆ ขณะตามปกติ เป็นนามเป็นรูป ผู้ที่จะไปจากการเกิดขึ้น และดับไปของนาม และรูปได้ ผู้นั้นปัญญาต้องสมบูรณ์เจริญจนกระทั่งรู้ชัดเพื่อเป็นมหาวิปัสสนาจริงๆ จึงจะประจักษ์การเกิดขึ้น และดับไปของนาม และรูป ที่เกิดดับตามปกติได้ เพราะฉะนั้นถ้าแม้แต่ในขณะที่กำลังเห็นตามปกติ ได้ยินตามปกติ คิดนึกตามปกติ สติก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนาม และรูปที่กำลังปรากฏตามปกติเลย ก็อย่าเพิ่งคิดว่าจะไปประจักษ์การเกิดดับของนาม และรูปเป็นอุทยัพพยญาณได้ ปัญญาต้องสมบูรณ์เป็นขั้นๆ จริงๆ ต้องเป็นความรู้ ไม่ใช่ความไม่รู้ ปัญญาที่เกิดจากการเจริญสติ เป็นวิปัสสนาญาณแล้ว ไม่ใช่ไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏ