ไม่มีใครพ้นจากวิบากไปได้


    ท่านอาจารย์ ถามว่า มีใครพ้นจากวิบากคือผลของกรรมได้บ้าง หรือไม่

    ผู้ฟัง ไม่มีครับ

    ท่านอาจารย์ ไม่มี เดี๋ยวนี้มีผลของกรรมไหม

    ผู้ฟัง มีครับ

    ท่านอาจารย์ นี่คือต้องทราบ เพราะโดยมากเราไปคิดถึงเหตุการณ์ใหญ่ๆ เวลาที่ได้ลาภ ก็เป็นผลของกุศลกรรมกรรม เวลาที่เป็นทุกข์เดือดร้อนก็เป็นผลของอกุศลกรรม แต่ให้ทราบว่าไม่มีเลยที่วันหนึ่งๆ จะไม่มีผลของกรรม ทุกขณะที่เห็นเป็นวิบาก ทุกขณะที่ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส เป็นวิบากทั้งนั้นเลย เพราะฉะนั้นวิบากในชีวิตประจำวันก็มีทาง ๕ ทาง ที่จิตจะเกิดขึ้นรับผลของกรรม คือ มีตาสำหรับจักขุวิญญาณเกิดขึ้นเห็น แล้วแต่ว่าจะเป็นผลของกุศลกรรม หรืออกุศลกรรม ทางหูต้องได้ยิน อยากได้ยิน หรือไม่อยากได้ยิน เมื่อครู่นี้ก็มีผู้บอกว่าได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจ ก็ให้ทราบว่าขณะนั้นไม่มีใครทำให้เลย กาลของกรรม เห็นได้เลยว่ามีแรงกรรมที่ไม่มีแรงอื่นจะเสมอเหมือน อยู่ที่นี่ตายก็ไปเกิดในสวรรค์ก็ได้ นรกก็ได้ ตามแรงของกรรม หรือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ที่เรารู้สึกว่าแปลกน่าอัศจรรย์ ไม่น่าจะเกิดแต่ก็เป็น ไม่มีใครไปพยายามให้เป็นอย่างนั้น แต่ว่ากรรมก็สามารถจะเป็นปัจจัยให้เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น โดยที่ต้องรู้ว่าคนอื่นไม่ได้ทำให้เลย แต่กรรมที่ได้กระทำแล้ว เมื่อสุกงอมเป็นวิบาก พร้อมที่จะเกิดขึ้นก็คือในชีวิตประจำวันทุกขณะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แต่ว่า หลังจากเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสแล้ว โดยคร่าวๆ ก็คือว่า ต่อจากนั้นไม่ใช่วิบาก คือไม่ใช่ผลของกรรม เพราะเหตุว่าพอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง ในสิ่งที่เห็น ตราบใดที่ไม่ใช่พระอรหันต์ ก็จะต้องเป็นกุศลจิต หรืออกุศลจิตชาติหนึ่งชาติใด แล้วก็รู้ตัวเองได้ใช่ หรือไม่ ว่าชาติไหนมาก

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 22


    หมายเลข 5541
    17 ม.ค. 2567