มีวิถีจิตแรกทั้งสองอย่าง แต่ทีละอย่าง


    สุ. ขณะนี้มีปัญจทวาราวัชชนจิต หรือมโนทวาราวัชชนจิต มีทั้งสองอย่าง แต่ทีละอย่าง

    ผู้ฟัง ช่วงที่เราหลับสนิท ไม่ฝันไม่อะไร ถือเป็นภวังค์ใช่ไหมครับ

    ท่านอาจารย์ ขณะใดที่ไม่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขณะนั้นจิตเกิดดับทำภวังคกิจ เป็นภวังค์

    ผู้ฟัง แล้วอย่างฝัน

    ท่านอาจารย์ เป็นวิถีจิตทางมโนทวาร

    ผู้ฟัง เพื่อนผมเขาถามว่าที่ฝันเห็นไม่ได้เห็นทางตา แต่เห็นทางใจ อย่างเห็นสีแดง หรือได้ยินเสียง ไม่ได้ยินทางหูเพราะช่วงนั้นปัญจทวาราวัชชนจิตไม่เกี่ยวข้อง เป็นมโนทวาราวัชชนจิต

    ทีนี้เขาถามว่าทำไมถึงเห็นถึงได้ยินได้โดยที่ไม่อาศัยปัญจทวาราวัชชนจิต เกิดจากสัญญาเจตสิกหรือเปล่าครับ

    ท่านอาจารย์ แน่นอน สัญญาเกิดกับจิตทุกขณะ เป็นสัญญาที่จำแน่นอน แต่ไม่ใช่สัญญาเจตสิกที่เกิดกับจักขุวิญญาณ ขณะนี้ต้องต่างกับฝัน เพราะฉะนั้น ขณะนี้มีสิ่งที่ปรากฏจริงๆ เพราะฉะนั้น เป็นวิถีจิตทางตา เป็นจักขุทวารวิถี แต่เวลาที่ฝันเหมือนเห็น ที่กล่าวว่าเหมือนเห็นเพราะไม่ได้เห็นจริงๆ เพราะจักขุวิญญาณไม่เกิด แต่มีความทรงจำ ในสิ่งที่เห็น

    ผู้ฟัง ก็คือมีสัญญาเจตสิกนั่นเอง

    ท่านอาจารย์ ที่จำ ต้องเกิดกับจิตทุกขณะ

    ที่มา ..

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 24


    หมายเลข 5564
    24 ม.ค. 2567