โสตาปัตติมรรคจิตจะเกิดขึ้นในภูมิที่มีขันธ์ ๕ เท่านั้น


    เจตนาเจตสิกในโสตาปัตติมัคคจิตเป็นสหชาตกัมมปัจจัยแก่รูปอะไร

    แก่จิตตชรูปในภูมิที่มีขันธ์ ๕เท่านั้นที่โสตาปัตติมัคคจิตจะเกิดได้ ถ้าในภูมิซึ่งมีขันธ์ ๔ ในอรูปพรหมภูมิไม่มีรูปเลยสักรูปเดียว มีแต่นามขันธ์เท่านั้นเกิด อรูปพรหมไม่มีตาไม่มีหูไม่มีจมูกไม่มีลิ้นไม่มีกายไม่มีรูปใด ๆ ทั้งสิ้น

    เพราะฉะนั้นการที่จะดับกิเลส จะดับได้อย่างไร ในเมื่อผู้ที่จะดับกิเลสได้ ก่อนกิเลสดับต้องมีความยินดีพอใจในรูป ในเสียงในกลิ่นในรส ในโผฏฐัพพะ เป็นประจำกันทุกคนมีใครไหมคะ ที่จะไม่มีความยินดีพอใจ ในรูปที่ปรากฏทางตา ในเสียงที่ปรากฏทางหู ในกลิ่นที่ปรากฏทางจมูก ในรสที่ปรากฏทางลิ่น ในโผฏฐัพพะที่ปรากฏทางกาย ถ้ายังไม่สามารถที่จะรู้สภาพธรรม คือ รูป เสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะที่ปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง จะดับความยินดีในรูป เสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ย่อมเป็นไปไม่ได้

    เพราะเหตุว่าไม่ได้รู้ความจริงว่า รูปที่ปรากฏทางตาเป็นเพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่มีสัตว์ไม่มีบุคคลไม่มีตัวตนใด ๆ เลย ในรูปที่ปรากฏทางตา เสียงก็โดยนัยเดียวกัน กลิ่นรส โผฏฐัพพะ โดยนัยเดียวกัน

    เพราะฉะนั้นถ้าจะเว้นคือ ไม่รู้ความจริงของรูปซึ่งเกิดดับ ในขณะนี้รูปทุกรูปกำลังเกิดดับ ไม่ว่าจะเป็นรูปทางตา เสียงทางหู กลิ่นทางจมูก รสทางลิ้น โผฏฐัพพะทางกาย คิดนึกทางใจ ที่จะปรากฏสภาพธรรมของสังขารธรรม เกิดแล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็วที่สุด

    เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่ประจักษ์แจ้งการเกิดดับของรูป แล้วจะสามารถบรรลุเป็นพระโสดาบันบุคคล ดับกิเลสที่ยึดถือสภาพธรรมเป็นสัตว์เป็นบุคคลเป็นตัวตนได้เด็ดขาด เป็นสมุจเฉทไม่เกิดอีกเลย ย่อมเป็นไปไม่ได้

    ในอรูปพรหมภูมิ ไม่มีพระโสตาปัตติมัคคจิต แต่ผู้ใดก็ตามที่เกิดในภูมิที่มีขันธ์ ๕ บรรลุความเป็นพระโสดาบันบุคคลแล้ว อบรมเจริญฌานต่อจนกระทั่งบรรลุถึงอรูปฌาน และถ้าอรูปฌานนั้นไม่เสื่อมก่อนที่จะจุติ อรูปฌานหนึ่งอรูปฌานใดใน ๔ ขั้นเกิดขั้น จะเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิในอรูปพรหมภูมิ ไม่มีรูปเลยก็จริง แต่บุคคลนั้นเป็นพระโสดาบันบุคคลแล้ว เพราะเหตุว่าดับกิเลสหมดเป็นสมุจเฉท

    เพราะฉะนั้นถ้ากล่าวถึงสกทาคามิมัคคจิต อนาคามิมัคคจิต อรหัตตมัคคจิต กล่าวถึงเจตนาซึ่งเป็นสหชาตกัมมปัจจัยในสกทาคามิมัคคจิต อนาคามิมัคคจิต อรหัตตมัคคจิต ว่าเป็นปัจจัยแก่รูปหรือเปล่า?

    คำตอบเปลี่ยนแล้วใช่ไหมคะ? เป็นก็ได้ ไม่เป็นก็ได้

    เป็นปัจจัยแก่รูปในภูมิที่มีขันธ์ ๕

    ไม่เป็นปัจจัยแก่รูปในภูมิที่มีขันธ์ ๔

    แต่สำหรับโสตาปัตติมัคคจิตแล้ว ไม่ได้ค่ะ

    การที่ใครก็ตามจะดับกิเลสเป็นสมุจเฉท โดยไม่ประจักษ์แจ้งการเกิดดับของรูปธรรม เป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุว่าถ้ายังไม่ประจักษ์การเกิดดับของรูปธรรมย่อมยึดถือรูปธรรมนั้นว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือว่าเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตน

    เพราะฉะนั้นถ้าศึกษาโดยละเอียด คำถามก็จะแยก ๆ ๆออกได้ และคำตอบก็ต่าง ๆ กันไป ตามเหตุ


    หมายเลข 5587
    27 ส.ค. 2558