ศึกษาวิปากปัจจัยเพื่ออบรมเจริญปัญญา


    อย่างท่านที่ทำกุศลแล้วก็มีอกุศลเกิดแทรกเสียจนลักษณะของกุศลเกือบไม่ปรากฏ เช่นในขณะที่ให้ แล้วโกรธไม่พอใจบางท่านกล่าวเลยว่าไม่รู้เลยว่า ขณะนั้นเป็นกุศล เพราะว่าสภาพของจิตที่ผ่องใสไม่ปรากฏ มีแต่ลักษณะที่โกรธกระด้างในขณะนั้น เพราะเหตุว่าลักษณะของโทสะเกิดสลับจนกระทั่งมีลักษณะของโทสะปรากฏ มากกว่าลักษณะของกุศล ซึ่งเป็นช่วงขณะที่สั้นมาก แต่สติสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของอกุศลว่าสภาพนั้นเป็นอกุศล และสติปัฏฐานก็สามารถจะระลึกรู้ลักษณะสภาพของกุศลจิตซึ่งผ่องใส ปราศจากสภาพที่หยาบกระด้างในขณะนั้นได้ว่าขณะนั้นเป็นลักษณะของกุศลฉันใด

    เวลาที่สติระลึกรู้สภาพของสภาพธรรมที่ปรากฏ เป็นสภาพรู้ทางตาหรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย ก็รู้ว่าขณะนั้นเป็นวิบากไม่ใช่กุศลและไม่ใช่อกุศล

    เพราะฉะนั้นพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงทั้งหมด สามารถที่จะพิสูจน์ได้ในชีวิตประจำวัน เพราะเหตุว่าถ้าไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ในชีวิตประจำวัน การศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ๔๕ พรรษาจะไม่มีประโยชน์เลย และปริยัติต้องตรงกับปฏิบัติ ท่านผู้ใดก็ตามที่ท่านสนใจในการปฏิบัติ แต่ท่านไม่มีความรู้ คือว่าไม่ได้ศึกษาเรื่องของสภาพธรรมที่เป็นอนัตตาเสียก่อน ที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ตามปกติ ตามความเป็นจริง ผลของการปฏิบัติไม่ตรงกับปริยัติ อย่างท่านที่ได้สนทนากัน ท่านบอกว่า การปฏิบัติของท่าน คือ ไม่ให้รู้อะไร ทางตาทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

    สัจธรรมอยู่ที่ไหนล่ะคะในขณะนั้นอะไรเป็นสัจธรรมและสิ่งที่เป็นของจริงในขณะนี้ เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้และทรงแสดงโดยละเอียดเพื่อที่จะให้ผู้ที่ศึกษาได้อบรมเจริญปัญญาให้รู้สภาพธรรมถูกต้องตรงตามความเป็นจริง

    ถ้าสติไม่ระลึกรู้ในขณะที่กำลังเห็น ปัญญาย่อมไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าไม่ใช่ตัวตน เป็นนามธรรมและเป็นรูปธรรมซึ่งเกิดดับ

    เพราะฉะนั้นแม้แต่เรื่องของวิปากปัจจัยหรือกัมมปัจจัย ก็เป็นสิ่งซึ่งเมื่อได้ศึกษาแล้ว สามารถที่จะอบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้และทรงแสดง เพื่อที่จะได้ประจักษ์ในสภาพที่เป็นอนัตตาไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน ซึ่งทุกท่านต้องเป็นผู้ที่ตรง วันนี้ขณะนี้ สามารถที่จะรู้ว่าขณะใดเป็นวิบาก ขณะใดเป็นกุศลขณะใดเป็นอกุศลต้องเป็นผู้ที่ตรง

    ถ้ายังไม่รู้ในวันนี้ ก็ต้องอบรมเจริญสติปัฏฐานซึ่งเป็นหนทางเดียวไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะสามารถรู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงซึ่งสามารถจะรู้ได้


    หมายเลข 5601
    27 ส.ค. 2558