สัมมาทิฏฐิสูตร - ข้อความเกี่ยวกับกัมมปัจจัย


    ข้อความในมัชฌิมนิกาย มูลปัณนาสก์ มูลปริยายวรรค สัมมาทิฏฐิสูตร มีข้อความเรื่องกัมมปัจจัยมีข้อความว่า

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นพระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลายแล้ว ภิกษุพวกนั้นรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวคำนี้ว่า

    ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ที่เรียกว่าสัมมาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ อริยสาวกจึงชื่อว่า เป็นสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นดำเนินไปตรงแล้ว ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในธรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้

    พวกภิกษุกล่าวว่า ดูกรท่านผู้มีอายุ พวกกระผมมาจากที่ไกลก็เพื่อจะรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตนี้ในสำนักของท่านพระสารีบุตร พวกกระผมขอโอกาสเนื้อความแห่งภาษิตนี้จงแจ่มแจ้งแก่ท่านพระสารีบุตรเถิด ภิกษุทั้งหลายได้ฟังต่อท่านพระสารีบุตรแล้ว จักทรงจำไว้

    ท่านพระสารีบุตรตอบว่า ถ้าเช่นนั้นจงฟังเถิดท่านผู้มีอายุจงใส่ใจให้ดีเราจักกล่าว

    ภิกษุพวกนั้นรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว

    ท่านพระสารีบุตรกล่าวมีใจความว่า เมื่อใดอริยสาวกรู้ชัดซึ่งอกุศลและรากเหง้าอกุศล รู้ชัดซึ่งกุศล และรากเหง้าของกุศล ย่อมละอวิชชา ยังวิชชาให้เกิดขึ้น….. ตลอดไปจนกระทั่งถึง …..สามารถจะดับทุกข์ได้ แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้อริยสาวก ชื่อว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ

    เกี่ยวกับปัจจัยที่ได้ศึกษาแล้วหรือเปล่า?กัมมปัจจัย กุศลและอกุศล

    ถ้าไม่รู้นี่จะละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์เป็นบุคคลไม่ได้เพราะเหตุว่าเป็นเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นกุศลกรรมหรืออกุศลกรรม แต่ถ้าทราบว่าเป็นกัมมปัจจัย เป็นเจตนาเจตสิกซึ่งเป็นอกุศลเจตนาหรือกุศลเจตนาย่อมไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน

    เพราะฉะนั้นท่านพระสารีบุตรจึงกล่าวว่า

    เมื่อใดอริยสาวกรู้ชัดซึ่งอกุศล และรากเหง้าของอกุศลรู้ชัดซึ่งกุศล และรากเหง้าของกุศลย่อมละอวิชชา ยังวิชชาให้เกิดขึ้น….. ข้อความละต่อไป …..แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ อริยสาวก ชื่อว่า เป็นสัมมาทิฏฐิ

    แต่ก็คงจะไม่เพียงพอถ้ารู้เพียงเท่านั้นสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถที่จะละกิเลสได้ เพราะเหตุว่าแต่ละบุคคลนี้มีอุปนิสสยปัจจัยสะสมมาต่าง ๆ กันบางท่านเพียงฟังคาถาสั้น ๆ ก็สามารถที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังเกิดดับในขณะนี้ตามความเป็นจริงได้ แต่บางท่านนี้ต้องอาศัยการฟังมากมายหลายนัย


    หมายเลข 5622
    27 ส.ค. 2558