ภัยจากอาหารที่เป็นกพฬีการาหาร
สำหรับภัยของอาหารซึ่งเป็นกพฬีการาหาร
ข้อความในอรรถกถามีว่า
เพราะสัตว์ทั้งหลายกระทำซึ่งภัย คือ ความยินดีในอาหาร ที่เป็นคำ ๆ แล้ว เวลาถูกความหนาวเป็นต้นเบียดเบียน ก็กระทำการงานต่าง ๆ มีการนับด้วยแง่มือเป็นต้น เพื่อต้องการอาหาร ก็ประสบทุกข์ไม่น้อย คือ บางพวกถึงบวชในพระศาสนานี้แล้ว เมื่อแสวงหาอาหาร ด้วยการแสวงอาหารอันไม่ควร มีเวชกรรมเป็นต้น ก็ถูกติเตียนในโลกนี้บ้าง เกิดเป็นสมณเปรตในโลกหน้าบ้าง
โดยนัยที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในลักขณสูตรเป็นต้นว่า ถึงผ้าสังฆาฏิของผู้นั้นก็ถูกไฟไหม้ลุกโพรงอยู่ดังนี้ ควรทราบว่า ความใคร่ในอาหารที่เป็นคำ ๆ เป็นภัยคือ เป็นของน่ากลัว ด้วยเหตุอันนี้ก่อน
ไม่เคยมีใครจะบอกให้เห็นภัยของความความยินดีในอาหารที่เป็นคำ ๆ เลยใช่ไหม ปรุงแต่งให้อร่อยมาก ๆ ให้รสดี ๆ เท่าที่จะพอใจ มีการปรุงเติมอยู่เรื่อย มีการย้ายสถานที่รับประทานอาหาร
ถ้าไม่ต้องบริโภคอาหารนี้ คงจะตัดเรื่องวุ่นวายในโลกไปได้อีกเยอะ หรือว่าเพียงแต่ละความยินดีในอาหารที่บริโภคลงบ้าง ก็จะตัดความยุ่งยากได้มากมายเหมือนกัน คือไม่ว่าอะไรก็ตาม ถ้าพิจารณาเห็นว่า บริโภคเพราะเป็นเพียงอาหารปัจจัยจะตัดความกังวล จะตัดความยุ่งยาก จะตัดการแสวงหา จะตัดการทุจริตเพื่อที่จะได้อาหารที่ต้องการ เพราะเหตุว่าทุกท่านจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าปราศจากอาหาร แต่ถ้าปราศจากอย่างอื่นก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะฉะนั้นที่สำคัญจริง ๆ ย่อมเป็นอาหาร เพราะฉะนั้นถ้าติดในอาหารมาก จนกระทั่งถึงขั้นทุจริต ซึ่งย่อมจะเป็นไปได้ถ้าอาหารไม่พอ ถ้าอาหารไม่ประณีต แล้วก็อยากจะได้อาหารที่ประณีตมาก ๆ ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้กระทำทุจริต โดยการแสวงหาปัจจัยที่จะได้อาหารนั้น ๆ มา
แม้เพศบรรพชิตก็ได้รับทุกข์โทษภัยเพราะความยินดีในอาหาร ถ้าแสวงหาอาหารในทางที่ผิดแล้ว ย่อมได้รับการติเตียนในโลกนี้ และก็ได้รับภัยในโลกหน้า โดยการเกิดในอบายภูมิ ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในลักขณสูตรถึงสมณเปรต ซึ่งผ้าสังฆาฏิของผู้ที่เป็นเปรตนั้นก็ถูกไฟไหม้ลุกโพลงอยู่เพราะความยินดีในอาหาร