ไม่มีรูปนั่ง นอน ยืน เดิน ใน รูป ๒๘ รูป


    ผู้ฟัง รูปที่ยืนนี้ต้องอาศัยมหาภูตรูป ๔ ที่นี้ได้แก่ ธาตุดิน เพราะธาตุดินนี้เป็นประธาน ลม น้ำ ไฟ ก็อาศัยซึ่งกัน ถ้านั่ง รูปยืนก็ดับไปแล้ว ถ้าลงนอนลักษณะของรูปนั่งก็ดับไปแล้ว รูปนอนก็ปรากฏ ถ้าเดิน รูปยืนก็ดับไป รูปเดินก็ปรากฏ อย่างนี้ใช่ไหม

    ท่านอาจารย์ ที่เคยเรียนให้ทราบแล้วว่าในรูป ๒๘ รูป ไม่มีรูปนั่งรูปนอนรูปยืนรูปเดิน “โต๊ะ” ตั้งเอาไว้ยืนหรือเปล่า มีวิการรูปอะไรไหม กระจัดกระจายออกได้ก็ไม่มีการที่จะตั้งอยู่ใช่ไหม วิการรูปนั้นคือลักษณะที่อ่อน ที่เบา ที่ควรแก่การงาน ซึ่งเกิดจิต เกิดขึ้นเพราะอุตุ เกิดขึ้นเพราะอาหาร แต่โต๊ะนั้นไม่ได้รับประทานอาหาร และไม่มีรูปเบารูปอ่อนรูปที่ควรแก่การงาน ก็มีแต่เพียงธาตุดินน้ำไฟลม เหมือนกับรูปที่กาย เพราะฉะนั้นการประชุมกันของรูปทรงอยู่ ตั้งอยู่ จะไม่เรียกว่านั่งนอนยืนเดินก็ได้ ทรงอยู่ตั้งอยู่เท่านั้นเองในลักษณะนั้น แต่ว่าปัญญาจะต้องรู้ลักษณะของแต่ละรูปจึงจะละความยึดถือรูปที่ประชุมรวมกันในลักษณะนั้น ว่าเป็นตัวตน ถ้ายังประชุมรวมกันเป็นนั่ง ไม่สามารถที่จะละการยึดถือรูปนั้นว่าเป็นตัวตน การที่จะละการยึดถือรูปว่าเป็นตัวตนเพราะรู้ลักษณะที่ปรากฏจริงๆ ว่าลักษณะอ่อนไม่สามารถจะยึดถือว่าเป็นตัวตนได้ ลักษณะแข็งที่ปรากฏภายในภายนอกเหมือนกัน ไม่สามารถจะยึดถือว่าเป็นตัวตนได้ เย็นหรือร้อนที่ปรากฏภายในภายนอกก็เหมือนกัน ไม่สามารถจะยึดถือว่าเป็นตัวตนได้ ต้องมีลักษณะของรูปจริงๆ ปรากฏไม่ใช่เอามารวมกันเป็นท่าแล้วก็เข้าใจว่ารู้แล้ว ในการฟังธรรม หรือว่าในการกล่าวธรรมก็ตาม ขอให้ท่านพิจารณาจากพระไตรปิฎก ถ้าท่านจะค้านตอนหนึ่งตอนใดเป็นต้นว่า รูปนั่งนอนยืนเดินก็ตาม ขอให้ท่านไปสอบผ่านดูในรูป ๒๘ รูปพร้อมทั้งความเป็นจริงด้วยว่า รูปแต่ละรูปนั้นสามารถที่จะย่อยแตกกระจัดกระจายออกแล้วไม่เหลือความเป็นรูปนั่ง รูปนอน รูปยืน รูปเดินเลย แต่ว่ามีลักษณะของรูปนั้นๆ คงอยู่ คือความอ่อนก็อ่อนอยู่ ความเย็นก็เย็นอยู่ ความแข็งก็แข็งอยู่ เป็นลักษณะของรูปที่มีจริงๆ แต่ว่าจะบัญญัติเรียกว่านั่งนอนยืนเดินไม่ได้ เพราะว่าแตกย่อยกระจายออกไป หรือว่าแม้แต่ในขณะที่กำลังพูดในพระไตรปิฎก กายานุปัสสนาสติปัฏฐานก็กล่าวว่าเป็นผู้เจริญสติ มีสติในขณะที่กำลังพูด ถ้าท่านผู้ใดจะค้านก็ขอให้ค้านกับพระไตรปิฎก เหตุผลว่าพระไตรปิฎกบรรทัดนั้นไม่ถูกต้องทั้งอรรถ พยัญชนะ มีความหมายที่สุขุม ลึกซึ้งกว่านั้น อย่างไร ประการใด ท่านก็แสดงเหตุผล ไม่ใช่เป็นการค้านบุคคลเพราะเหตุว่าท่านค้านกับพระไตรปิฎก ถ้าพระไตรปิฎก รูปนั่งนอนยืนเดินไม่มี มีวิการรูปความเบา ความอ่อน ความควรแก่การงาน ท่านก็รู้ได้ว่า ธาตุดินน้ำไฟลมเหล่านั้นบางรูปก็มีลักษณะที่อ่อน เบา ที่ควรแก่การงานด้วย อุปมาเหมือนกับทองเวลาที่ถูกความร้อน ทองนั้นก็มีความอ่อน แต่ก็ไม่ได้แยกจากทองนั่นเอง ก็ยังเป็นลักษณะอาการของทองที่มีความอ่อน เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็ขอให้ถือว่า ท่านมีความคิดความเห็นอย่างไร ท่านก็แสดงเหตุผล ถ้าท่านจะค้านกับพระไตรปิฎก ท่านก็กล่าวถึงความคิดความเข้าใจของท่านว่าควรจะคั้นเพราะเหตุใด หรือว่า ควรจะตัดควรจะทิ้งออกไป อย่างอารมณ์ปัจจุบัน ถ้าท่านผู้ใดไม่มีความเข้าใจเรื่องมหาสติปัฏฐาน ท่านก็ต้องตัดทุกสิ่งออกไปเยอะแยะเหลือเพียงบางรูปที่ท่านต้องการให้รู้น้อยมาก แล้วก็ไปเป็นรูปนั่ง รูปนอน รูปยืน รูปเดิน ซึ่งก็ไม่มีในรูป ๒๘ รูปเลย


    หมายเลข 5719
    2 ส.ค. 2567