ทรงแสดงธรรมเพื่อให้เข้าถึงความเป็นอนัตตา
ศึกษาเรื่องจิตนั้นไม่มีทางที่จะจบได้ เพราะเหตุว่าจิตมีอยู่ทุกขณะ ตราบใดที่จิตซึ่งกำลังมีในขณะนี้ เรายังไม่ได้อบรมเจริญปัญญาจนกระทั่งถึงขั้นที่จะประจักษ์แจ้งตามที่ได้ฟัง การฟังบ่อยๆ ก็เพื่อที่จะเตือนให้ทราบว่าขณะนี้มีสภาพธรรมที่เป็นจริงตามที่ได้กล่าวถึง แต่ว่าการที่จะรู้ลักษณะจริงๆ ของสภาพธรรมไม่ใช่ไปรู้เพียงชื่อต่างๆ เช่นที่กล่าวแล้วว่าเป็นปัญจทวาราวัชชนะ จักขุวิญญาณ สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ แต่ให้ทราบว่าที่ทรงแสดงธรรมไว้โดยละเอียดก็เพื่อที่จะให้เข้าถึงความเป็นอนัตตาอย่างมั่นคง และรู้ว่าปัญญาก็คือสภาพธรรมที่สามารถเข้าใจถูก เห็นถูก ในสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ ซึ่งสภาพนามธรรมสำคัญมาก เพราะเหตุว่ารูปธรรมไม่รู้อะไร เพราะฉะนั้นสุขทุกข์ทั้งหมดซึ่งเป็นชีวิตก็เป็นเรื่องของสภาพนามธรรม ซึ่งเป็นจิต และเจตสิก ซึ่งไม่ได้ปราศจากรูปเลย แต่ถ้าไม่มีนามธรรมเกิดขึ้น รูปใดๆ ก็ไม่ปรากฏ เพราะฉะนั้น แม้ในขณะนี้ ก็ย้ำเวลาที่พูดถึงจิตขณะไหน ก็ให้ทราบว่าเดี๋ยวนี้กำลังมีจิต และจิตนั้นเป็นจิตประเภทใดใน ๘๙ ประเภท
ที่มา ...