รู้ทุกขลักษณะได้แม้ไม่เปลี่ยนอิริยาบถ
ข้อความต่อไปที่ว่า
เมื่อมนสิการความเกิด และความดับแล้ว เพิกสันตติ อนิจจลักษณะก็ปรากฏ โดยสภาวะตามความเป็นจริง
มาจากพยัญชนะที่ว่า สนฺตติยา วิโกปิตาย
เมื่อใฝ่ใจถึงความบีบคั้นเนืองๆ เพิกถอนอิริยาบถเสีย ทุกขลักษณะก็ปรากฏตามสภาพที่เป็นจริง
ความนี้มาจากพยัญชนะที่ว่า อิริยาปเถ อุคฺฆาฏิเต
เมื่อแยกธาตุต่างๆ แยกฆนะ คือ กลุ่มก้อนเสีย อนัตตลักษณะก็ปรากฏตามสภาพที่เป็นจริง
ความนี้มาจากพยัญชนะที่ว่า ฆนวินิพฺโพเค กเต
ที่ว่าเพิกอิริยาบถ หมายถึงในขณะที่ไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน อิริยาบถ แต่กระจัดกระจายฆนะคือความเป็นกลุ่มก้อนออก ไม่ให้อิริยาบถปิดบัง ก็จะประจักษ์ความเกิดขึ้น และดับไปซึ่งเป็นทุกข์ ยังควบคุมรวมกลุ่มกันเป็นก้อนเป็นแท่ง ที่จะไม่ให้ยึดถือว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคลนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย เห็นโต๊ะ เห็นขวด เห็นถ้วยแก้ว เห็นเก้าอี้ ตั้งอยู่ ไม่กระจัดกระจายว่าเป็นรูปทางตา หรือว่าเวลาที่กระทบสัมผัสก็เป็นอีกรูปหนึ่งที่ปรากฏลักษณะที่อ่อนแข็ง ที่ปรากฏทำกาย เพื่อความเป็นขวดที่ตั้งอยู่ แก้วที่ตั้งอยู่ ก็จะได้หมดไปหายไป มีแต่ลักษณะของรูป ที่กระทบสัมผัสแล้วเย็นหรือร้อน อ่อนหรือแข็ง ไม่ยึดถือรูปนั้นว่าเป็นตัวตน ไม่เป็นสัตว์ ไม่เป็นบุคคล เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระจัดกระจาย แตกย่อยฆนะการรวมเป็นกลุ่มก้อนออก จึงจะประจักษ์ความเป็นอนัตตา แล้วจึงจะประจักษ์ความเกิดขึ้นแล้วดับไป แม้ไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ไม่ใช่ว่าต้องเมื่อยเสียก่อนแล้วจึงเปลี่ยน ทุกข์ถึงจะปรากฏ