สติปัฏฐานระลึกสภาพธรรมแต่ละทวารตามความเป็นจริง
สำหรับอินทรีย์ ๕ ได้แก่ตาหูจมูกลิ้นกายซึ่งไม่ใช่มีแต่เฉพาะการเห็นการได้ยินการได้กลิ่น การลิ้มรสทางรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสเท่านั้นแต่ยังต้องมีอินทรีย์ที่ ๖คือมนินทรีย์ด้วย
เพราะฉะนั้นในขณะที่เห็นนี้ เมื่อทางตาจิตเกิดขึ้น อาศัยตาเห็นจิตที่เห็นและจิตอื่น ๆ ที่เกิดโดยอาศัยทวารตาดับไปแล้วภวังคจิตเกิดคั่นมโนทวารวิถีจิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ที่วิถีจิตทางตาเพิ่งรู้และดับไปซ้ำอีก
เพราะฉะนั้นทางใจก็รับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ต่อจากจิตที่อาศัยทางตาเกิดขึ้นเห็น จิตที่อาศัยทางหูเกิดขึ้นได้ยินจิตที่อาศัยจมูกเกิดขึ้นได้กลิ่น จิตที่อาศัยลิ้นเกิดขึ้นลิ้มรส จิตที่อาศัยกายรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสนอกจากนั้นทางใจก็ยังรู้เรื่องราวของอารมณ์ต่าง ๆ ที่กำลังปรากฏเพราะฉะนั้นสติปัฏฐานสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมแต่ละทวารตามความเป็นจริง
ถ้าไม่ระลึกทางตาในขณะนี้ อาจจะระลึกทางใจก็ได้ หรือไม่ระลึกทางหูที่เสียงกำลังปรากฏ หรือว่าจิตกำลังรู้เสียง แต่ว่าระลึกทางใจในขณะที่นึกถึงคำ หรือความหมายของเสียงที่ได้ยินก็ได้ หรือแม้แต่ในขณะที่คิดนึกเรื่องราวต่าง ๆ จิตก็สามารถที่จะมีสติเกิดร่วมด้วยระลึกรู้ลักษณะของสภาพที่กำลังคิดนึกเรื่องราวต่างๆว่า แท้ที่จริงแล้วสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ทุกขณะนั้นอายุสั้นมากเล็กน้อยมาก ถ้าสติเกิดระลึกได้จริง ๆ
เช่นในขณะที่กำลังเห็นในขณะนี้ ได้ยินต้องมีด้วยแน่ ๆ ใช่ไหม ? เพราะฉะนั้นถ้าเห็นความรวดเร็วของการที่จิตเกิดขึ้นทางตาเห็น ดับไป ภวังคจิตเกิดคั่น มโนทวารวิถีจิตเกิดต่อ ภวังคจิตเกิดคั่นและจิตได้ยินเกิดขึ้น ได้ยินเสียงดับไปภวังคจิตเกิดคั่น แล้วจิตก็เห็นอีกทางตา
เพราะฉะนั้นในขณะที่ดูเหมือนว่าเห็นไม่ได้ดับไปเลย ก็แสดงให้เห็นการเกิดดับทีละขณะอย่างรวดเร็วของจิต จากทวารหนึ่งไปสู่อีกทวารหนึ่งโดยที่มีภวังค์คั่นทุก ๆ วาระของทวาริกจิต
เพราะฉะนั้นสติจึงสามารถที่จะเกิดเมื่อไรก็ได้ระลึกรู้ลักษณะของสภาพที่กำลังปรากฏไม่ว่าจะเป็นทางตาที่กำลังเห็น หรือทางกายที่กำลังกระทบสัมผัส ทางใจที่กำลังคิดนึก ทางหูที่กำลังได้ยินเสียงเป็นปกติในชีวิตประจำวัน เพียงแต่ให้ทราบว่าสภาพธรรมแต่ละอย่างที่ปรากฏนี้เล็กน้อยจริง ๆ อายุสั้นมาก ปรากฏเพียงเล็กน้อยแล้วก็ดับไป เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน
สำหรับการอบรมเจริญปัญญาถ้าไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ โดยอาศัยอินทรีย์ ๖คือตาหูจมูกลิ้นกายใจก็ย่อมไม่สามารถที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรมที่ปรากฏในชีวิตประจำวันตามปกติได้