เพียงรู้รูปเดียว ไม่สามารถบรรลุอริยสัจจธรรมได้


    โดยมากบางทีผู้ที่จะเจริญสติปัฏฐานเข้าใจผิดคิดว่า รู้เฉพาะรูปรูปเดียว ประเภทเดียวก็สามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม แต่ขอให้ท่านพิจารณาถึงความจริงซึ่งมีความไม่รู้ในสิ่งที่กำลังปรากฏ ตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกๆ วัน เมื่อมีความไม่รู้อย่างนี้แล้วเจริญแจ้งบรรลุอริยสัจธรรมได้โดยความไม่รู้เช่นนั้นได้อย่างไร ที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้นั้น ต้องอาศัยการเจริญความรู้เพิ่มขึ้นมากขึ้น ในสายตาของพระอริยะบุคคล ท่านก็คงจะคิดว่า ทำไมผู้ที่หลงลืมสติถึงเช่นนี้ยังหวังที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ถ้าไม่เจริญสติเป็นปกติ ขณะนั่ง นอน ยืน เดิน เคลื่อนไหว เหยียด คู้ พูด นิ่ง คิด เป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง เฉยๆ บ้าง แล้วไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เป็นผู้ที่มีปกติหลงลืมสติเช่นนี้ แล้วจะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้อย่างไร ทั้งๆ ที่หลงลืมสติอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ หรือว่าบางท่านเข้าใจคิดว่า ท่านจะเข้าวิปัสสนา ก็เหมือนกับว่าท่านพยายามจะไปจับด้ามมีดไว้สัก ๒ อาทิตย์ แล้วผลเป็นอย่างไรทดลองดูก็ได้ ด้ามมีดจะทันสึกไหม ๒ อาทิตย์ จับอยู่ตลอดเวลา ด้ามมีดก็ไม่สึกไปดังใจได้ เพราะฉะนั้นการเป็นผู้มีปกติเจริญสติเท่านั้น ที่จะทำให้ปัญญารู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ตามความเป็นจริงหมายความถึงตามปกติที่มีเหตุปัจจัยทำให้เกิดขึ้นสำหรับแต่ละบุคคล และไม่ต้องคำนึงถึง ก็จับด้ามีดไปเรื่อยๆ จนสึกเมื่อไหร่ นั่นก็เป็นเรื่องที่ว่า เมื่อปัญญารู้ชัดก็ละคลายความไม่รู้มากขึ้นทุกที


    หมายเลข 6104
    31 ก.ค. 2567