นี่เป็นอนัตตา แต่รู้ได้โดยอาศัยการตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาค
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าเมื่อถึงกาลที่กรรมใดสุกงอมที่จะให้ผล ทางที่กรรมจะทำให้วิบากจิตเกิดขึ้นรับผลต้องเป็นทางหนึ่งทางใดใน ๕ ทาง คือ จะเป็นทางตา หรือจะเป็นทางหู หรือเป็นทางจมูก หรือเป็นทางลิ้น หรือเป็นทางกาย เราบังคับอะไรได้ หรือไม่ มีเราสักขณะหนึ่ง หรือไม่ ที่จะทำอะไรๆ ให้เกิดขึ้นอย่างนี้ แต่สภาพธรรมเป็นจริงอย่างนี้ ก็เข้าใจตามความเป็นจริงว่า นี่คืออนัตตา มิฉะนั้นไม่มีทางเลยที่เราจะถึงธรรม เพราะเหตุว่าธรรมเป็นธรรมไม่ใช่ตัวตน ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
เพราะฉะนั้น การฟังก็ต้องมีการไตร่ตรอง และมีการค่อยๆ เข้าใจ นี่คือกำลังโน้มไปสู่ทางที่จะไปอีกฝั่งหนึ่ง แต่จะไปได้แค่ไหน เครื่องมือมี หรือยัง เรือมี หรือยัง หรือกำลังหาอุปกรณ์ที่จะทำให้เป็นเรือที่จะทำให้ข้ามฝั่งไปได้ เพราะฉะนั้นก็เป็นสิ่งที่จริง ที่จะต้องรู้ตามความเป็นจริงว่า นี่คือสัตว์โลกซึ่งไม่ใช่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องอาศัยการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง แล้วจึงจะมีโอกาสได้ฟังพระธรรมเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงๆ
ที่มา ...