ปรมัตถธรรมเกิดจากปัจจัย
อ.วิชัย คือต้องพิจารณาว่าขณะนี้เรากล่าวถึงปรมัตถธรรม ถ้ากล่าวโดยบัญญัติบุคคลก็จะไม่ชัดเจนเลย เพราะเหตุว่า เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ นั้น เป็นการกล่าวโดยสมมติ แต่เมื่อกล่าวถึงเจาะจงคือ จิต เจตสิก รูป ธรรมเหล่านี้เป็นปรมัตถธรรม คือ เกิดจากปัจจัย เด็กไม่มีจริง แต่จิต เจตสิก รูป มีจริง ก็กล่าวถึงธรรมที่มีจริงเกิดจากปัจจัยด้วย กล่าวถึงจิตเป็นสหชาตปัจจัยแก่เจตสิก แต่ถ้ากล่าวถึงเด็กแฝดเป็นการกล่าวโดยสมมติบัญญัติ ไม่ใช่ปรมัตถธรรม ขณะนี้มีใคร หรือไม่
ผู้ฟัง ไม่มี
อ.วิชัย แต่ถ้ากล่าวเจาะจงคือมีจิต เจตสิก รูป นิพพาน แต่ จิต เจตสิก รูป เกิดจากปัจจัย แต่ถ้ากล่าวถึงเด็กเป็นการกล่าวโดยสมมติบัญญัติบุคคล
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นไม่ใช่สหชาตปัจจัย
อ.วิชัย ถ้ากล่าวถึงปัจจัย ต้องกล่าวถึงจิต เจตสิก รูป นิพพาน นี่คือเป็นปัจจัย ถ้ากล่าวถึงผลคือ จิต เจตสิก รูป ปรมัตถธรรม ๓ เป็นปัจจยุบัน คือเป็นธรรมที่เกิดจากปัจจัย แต่ธรรมที่เป็นปัจจัยคือปรมัตถธรรมทั้ง ๔ คือจิต เจตสิก รูป นิพพาน ถ้าเราเข้าใจเรื่องของปรมัตถธรรม การกล่าวถึงบุคคลต่างๆ ก็เข้าใจด้วย เพราะเป็นการกล่าวโดยบัญญัติบุคคลขึ้น แต่จริงๆ ต้องมุ่งหมายถึงปรมัตถธรรมที่เกิดจากปัจจัย
ที่มา ...