โทมนัสอาศัยเนกขัมมะ ๖


    ใน ๓๖ ประการนั้น โทมนัสอาศัยเนกขัมมะ ๖ เป็นไฉน คือ

    บุคคลทราบความไม่เที่ยง ความแปรปรวน ความคลาย และความดับของรูป ทั้งหลายนั่นแล แล้วเห็นด้วยปัญญาชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า รูปในก่อน และในบัดนี้ ทั้งหมดนั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา แล้วย่อมเข้าไปตั้งความปรารถนาในอนุตตรวิโมกข์

    เมื่อเข้าไปตั้งความปรารถนาในอนุตตรวิโมกข์ดังนี้ว่า เมื่อไรตัวเราจึงจะบรรลุอายตนะที่พระอริยะทั้งหลายได้บรรลุอยู่ในบัดนี้เล่า ย่อมเกิดโทมนัสเพราะความปรารถนาเป็นปัจจัยขึ้น โทมนัสเช่นนี้เราเรียกว่า โทมนัสอาศัยเนกขัมมะ

    ประจักษ์การเกิดขึ้น และดับไปของนามรูปแล้วก็จริง แต่ยังไม่บรรลุอริยสัจจธรรม ญาณมีหลายขั้น ไม่ใช่ว่าเพียงอุทยัพพยญาณประจักษ์การเกิดขึ้น และดับไปของนามรูปแล้วรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ทันที ยังมีญาณอีกมากก่อนจะถึงการตรัสรู้อริยสัจจธรรม ขนาดใดที่ประจักษ์ความเกิดดับของนามรูป แต่มีความปรารถนาว่า เมื่อไหร่หนอจึงจะได้รู้แจ้งอริยสัจธรรม ในขณะนั้น เวทนาเป็นอะไร โทมนัสเวทนา เพราะฉะนั้นผู้เจริญสติที่จะไม่พิจารณาไม่รู้ลักษณะของเวทนาถึงสภาพธรรม ไม่ได้เลย การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมนั้นรู้จริงละจริง แล้วก็รู้ทั่ว ปัญญาก็สมบูรณ์ขึ้นเป็นขั้นๆ ด้วย ผู้เจริญสติปัฏฐานทราบลักษณะของโทมนัสอาศัยเนกขัมมะ

    ข้อความต่อไปเป็นเรื่องของเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ โดยนัยเดียวกัน คือ

    บุคคลทราบความไม่เที่ยง ความแปรปรวน ความคลาย และความดับของธัมมารมณ์ทั้งหลายนั่นแล แล้วเห็นด้วยปัญญาชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า ธัมมารมณ์ในก่อน และในบัดนี้ ทั้งหมดนั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา แล้วย่อมเข้าไปตั้งความปรารถนาในอนุตตรวิโมกข์

    เมื่อเข้าไปตั้งความปรารถนาในอนุตตรวิโมกข์ดังนี้ว่า เมื่อไรตัวเราจึงจะบรรลุอายตนะที่พระอริยทั้งหลายได้บรรลุอยู่ในบัดนี้เล่า ย่อมเกิดโทมนัสเพราะความปรารถนาเป็นปัจจัยขึ้น โทมนัสเช่นนี้เราเรียกว่า โทมนัสอาศัยเนกขัมมะ เหล่านี้ โทมนัสอาศัยเนกขัมมะ ๖

    ผู้ที่เจริญสติปัฏฐาน แต่ว่ายังไม่ประจักษ์การเกิดดับของนามธรรม และรูปธรรม เวลาที่เกิดโทมนัสว่าเมื่อไหร่จะบรรลุอริยสัจธรรมเคยรู้สึกบ้างไหม ว่าเป็นเวทนาชนิดไหน เป็นสิ่งที่ควรระลึกรู้ ไม่ว่าจะเป็นโสมนัสก็ควรระลึกรู้ โทมนัสก็ควรจะระลึกรู้ อุเบกขาก็ควรระลึกรู้ บางท่านตอนที่เพิ่งเริ่มเจริญสติปัฏฐาน เสียดายแล้วใช่ไหม วันนี้สติเกิดนิดเดียว ขณะที่เสียดายนั้นเวทนาเป็นอะไร โทมนัส ที่ถูกแล้วสติระลึกรู้ลักษณะของโทมนัสเวทนาในขณะนั้น เป็นการเจริญสติปัฏฐาน แต่เพราะไปมัวเสียดาย เป็นตัวตนที่แทรกเข้ามาเพราะอะไร เพราะเหตุที่การพิจารณานามธรรม และรูปธรรมอย่างไม่ทั่ว แม้แต่เวทนาที่เกิดขึ้นปรากฏในขณะนั้นก็หลงลืมสติ ไม่ระลึกรู้สภาพที่ไม่ใช่ตัวตน เป็นแต่เพียงความรู้สึกชนิดหนึ่ง เกิดปรากฏเพียงชั่วนิดเดียวแล้วก็หมดไปแล้วก็ดับไป แล้วสติก็ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมอื่นๆ ต่อไป ก็เป็นการเจริญสติปัฏฐานเนืองๆ บ่อยๆ ตามปกติในชีวิตประจำวัน และก็รู้ชัดขึ้นแล้วก็รู้ละเอียดขึ้น นี่คือจะเป็นการเจริญสติปัฏฐาน เป็นการเจริญปัญญา เพื่อความรู้จริง รู้แจ้ง แล้วก็สามารถที่จะละคลายความไม่รู้ได้


    หมายเลข 6204
    31 ก.ค. 2567