พระขีณาสพเป็นผู้ชนะวิบาก
ข้อความต่อไป แสดงความต่างกันของพระอรหันต์กับปุถุชนว่า
พระขีณาสพชื่อว่า ผู้ชนะวิบาก เพราะชนะวิบาก ดำรงอยู่ เพราะฉะนั้น ปุถุชนชื่อว่า อขีณาสวะ เพราะไม่ชนะวิบาก ไม่เห็นโทษ ไม่สดับ ไม่ศึกษา
ไม่เห็นโทษ คือ ไม่เห็นโดยความเป็นโทษ
โทษของรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ คืออะไร ถ้าเป็นรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่ดี ก็เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจสบาย มีความสุข ทำไมว่าเป็นโทษ ปุถุชนนั้นไม่เห็นโทษ ไม่สดับ ไม่ศึกษา ไม่เห็นโทษคือไม่เห็นโดยความเป็นโทษ ถ้าเห็นด้วยความเป็นโทษก็ทราบว่า ไม่ว่าจะเป็นรูป ไม่ว่าจะเป็นเสียง เป็นกลิ่น เป็นรส เป็นโผฏฐัพพะ เป็นธรรมารมณ์ ปรากฏเกิดขึ้นเพียงนิดเดียวแล้วก็หมดสิ้นไป ผู้ที่จะรู้ได้คือผู้ที่เจริญสติเท่านั้น ถ้าสติระลึกรู้ลักษณะของเสียง เสียงก็ปรากฏนิดเดียวแล้วก็ดับไป ได้ยินปรากฏนิดเดียวเท่านั้นแล้วก็ดับไป เป็นสภาพรู้ทางหู ไม่ใช่เสียง ผู้ที่เจริญสติที่เป็นผู้ทราบขณะที่เล็กน้อยของรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพารมณ์ ทั้งที่ดีที่น่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพารมณ์นั้นก็ไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ปุถุชนผู้ไม่เห็นโทษไม่สดับ ไม่ศึกษา ก็ย่อมไม่เห็นโทษคือไม่เห็นสภาพธรรมโดยความเป็นโทษนั่นเอง