การตั้งสติประการที่ ๑ ที่พระอริยเสพ
ข้อความต่อไปในพระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ก็ข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า และพึงทราบการตั้งสติ ๓ ประการที่พระอริยะเสพ ซึ่งเมื่อเสพชื่อว่า เป็นศาสดาควรเพื่อสั่งสอนหมู่นั่น เราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ศาสดาเป็นผู้อนุเคราะห์ แสวงประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดู แสดงธรรมแก่สาวกทั้งหลายว่า นี้เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่พวกเธอ นี้เพื่อความสุขแก่พวกเธอ เหล่าสาวกของศาสดานั้นย่อมไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยโสตสดับ ไม่ตั้งจิตรับรู้ และประพฤติหลีกเลี่ยงคำสอนของศาสดา
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น ตถาคตไม่เป็นผู้ชื่นชม ไม่เสวยความชื่นชม และไม่ระคายเคือง ย่อมมีสติสัมปชัญญะอยู่
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า การตั้งสติประการที่ ๑ ที่พระอริยะเสพ ซึ่งเมื่อเสพชื่อว่า เป็นศาสดาควรเพื่อสั่งสอนหมู่
การเจริญสติปัฏฐานเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เป็นการเจริญปัญญาที่รู้จริง รู้ทั่ว รู้แจ้ง สามารถละความไม่รู้ที่สะสมมาทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่ว่าจะมีผู้ที่ฟังอย่างเงี่ยโสตแล้วก็รับรู้ และประพฤติปฏิบัติตามเสมอ
บางท่านอาจจะคิดว่า ในอดีตกาลนั้นมีผู้ที่บรรลุมรรคผลด้วยการประพฤติตามที่ได้ทรงแสดงไว้ แต่สมัยนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะประพฤติตามที่ทรงแสดงไว้ ต้องย่นย่อ ทำอย่างโน้น ทำอย่างนี้บ้างเพื่อที่จะให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม แต่เป็นไปไม่ได้เลย