การเจริญสติปัฏฐานไม่ใช่ของง่าย
ผู้ฟัง การปฏิบัติสมัยโน้นกับสมัยนี้ต่างกันอย่างไร
ท่านอาจารย์ ไม่ได้ต่างเลย แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เจริญสติปัฏฐานทำอย่างอื่น เพราะคิดว่าวิธีนั้นจะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม สติปัฏฐานยากนัก ลึกซึ้งนัก ก็ไม่เจริญสติ ถ้าเป็นโดยในลักษณะเช่นนั้น ก็มี ไม่ใช่ว่าไม่มี
อุคฆฏิตัญญู วิปัญจิตัญญู เนยยบุคคล ปทปรมะ บุคคล ๔ จำพวก
เนยยบุคคล เป็นผู้ที่ต้องศึกษา สดับ เทียบเคียง สอบทาน ประพฤติปฏิบัติอย่างมากทีเดียว สงสัยว่าทำไมเนยยบุคคลไม่ไปเป็นอุคฆติตัญญู สงสัยได้ยังไงในเมื่อคนเราไม่เหมือนกัน
การเจริญสติ บุคคลอื่นไม่สามารถจะรู้ได้ ไม่ใช่ว่ามีอะไรที่ต้องผิดปกติให้รู้ว่าคนนี้กำลังเจริญสติ สติเป็นสภาพที่ระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะเกิดแล้วจึงได้ปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง
เพราะฉะนั้นขอให้ท่านผู้ฟังพิจารณาความละเอียดของธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ในที่นี้อีกครั้งหนึ่ง
ศาสดาเป็นผู้อนุเคราะห์ แสวงประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแสดงธรรมแก่สาวกทั้งหลายว่า นี้เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่พวกเธอ นี้เพื่อความสุขแก่พวกเธอ เหล่าสาวกของศาสดานั้นย่อมไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยโสดสดับ ไม่ตั้งจิตรับรู้ และประพฤติหลีกเลี่ยงคำสอนของศาสนา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้นตถาคตไม่เป็นผู้ชื่นชม ไม่เสวยความชื่นชม และไม่ระคายเคือง ย่อมมีสติสัมปชัญญะอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า การตั้งสติประการที่ ๑ ที่พระอริยะเสพ ซึ่งเมื่อเสพชื่อว่า เป็นศาสดาควรเพื่อสั่งสอนหมู่
ไม่ใช่หวังว่าทุกคนจะต้องเชื่อตาม แล้วก็ให้ระคายเคืองเวลาที่ผู้อื่นประพฤติหลีกเลี่ยงคำสอนที่พระศาสดาได้ทรงแสดงไว้แล้ว ไม่เสวยความชื่นชมเวลาที่ผู้อื่นไม่ตั้งจิตรับรู้ ไม่เงี่ยโสตจะดับ นั่นก็เป็นเรื่องของบุคคลเหล่านั้นเอง แล้วแต่ว่าผู้ใดจะสะสมเหตุปัจจัยที่จะพิจารณาใคร่ครวญธรรม ที่เป็นของลึก ที่เป็นของละเอียด ถ้าเป็นของง่ายๆ ทุกคนจะเป็นอย่างนี้ไหม ก็ต้องรีบปฏิบัติกันใหญ่ใช่ไหมง่ายดี แต่เพราะการเจริญสติปัฏฐานไม่ง่ายอย่างนั้น เป็นเรื่องที่จะต้องเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในขั้นของการฟังชัดเจนจริงๆ เป็นสัมมาทิฏฐิที่เกิดเพราะอาศัยการฟัง เข้าใจถูกในข้อปฏิบัติ แล้วก็ปัจจัยทำให้สัมมาสติเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นพระผู้มีพระภาคก็ได้ทรงแสดงไว้ ซึ่งท่านผู้ฟังก็จะต้องใคร่ครวญ พิสูจน์ด้วยการประพฤติปฏิบัติของท่านเอง ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ละเอียดไม่สุขุมแล้ว ก็คงจะไม่มีผู้ที่ตั้งจิตรับรู้ หรือว่าไม่เงี่ยโสตลงสดับ เพราะเหตุว่าถ้าเป็นของง่ายก็ประพฤติตามกันไปง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องฟังมาก