ลักขณาทิจตุกของจิต


    สภาพของจิตนั้นเป็นสภาพที่มีความรู้อารมณ์เป็นลักษณะ มีความเป็นไปโดยความถึงก่อนเป็นรสะ รู้ หรือว่าเป็นหัวหน้า เป็นประธานในการรู้อารมณ์นั่นเอง อย่างทางตาที่เห็นสีเป็นจิต ส่วนที่จะชอบหรือไม่ชอบเป็นสภาพธรรมอื่นที่เกิดพร้อมกับจิต หรือว่าความรู้สึกโสมนัส โทมนัส อุเบกขา ก็เป็นสภาพความรู้สึกที่เกิดกับจิต แต่ในขณะที่กำลังเห็น เป็นจิตที่เห็น จิตเป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้อารมณ์ มีการสืบเนื่องกัน คือ มีการเกิดดับสืบต่อกันเป็นปัจจุปัฏฐาน คือ เป็นอาการที่ปรากฏให้รู้ได้ ถ้าจิตเกิดขึ้น และดับไปแล้วไม่เกิดต่อก็ไม่มีการปรากฏอะไรให้รู้ได้เลย แต่ถึงแม้เมื่อจิตดับไปแล้ว ก็เกิดอีก สืบต่อไว้อีก เห็นเมื่อสักครู่นี้ก็ดับไปแล้ว มีปัจจัยทำให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้นเห็นอีก ได้ยินอีก ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน มีชีวิตอยู่ที่ไหนก็มีจิตที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยเหตุปัจจัย แล้วก็ดับ แล้วก็เกิดดับสืบต่อรู้อารมณ์อยู่ตลอดเวลา

    เพราะฉะนั้น ไม่ว่าสติจะระลึกรู้ลักษณะของจิต ระลึกได้ทุกแห่ง ไม่ว่าในสถานที่ใด ทรงแสดงลักษณะของจิตทุกชนิดว่าเป็นสติปัฏฐาน เป็นจิตตานุปัสสนา เป็นสิ่งที่สติระลึกรู้ได้ จึงจะละการยึดถือว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล

    สภาพของจิตนั้นมีนาม และรูปเป็นปทัฏฐาน ในบางแห่ง เช่น ในสัมโมหวิโนทนีกล่าวว่า มีสังขารเป็นปทัฏฐาน หรือมีวัตถุ และอารมณ์เป็นปทัฏฐาน คือ เป็นเหตุใกล้ให้เกิด


    หมายเลข 6312
    31 ก.ค. 2567