เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม


    สิ่งใดที่บกพร่องแก้ได้แต่ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวด้วยความสามัคคีที่จะเห็นประโยชน์แก่พระธรรม ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัวที่จะเห็นว่า ตรงนี้บุคคลนี้ทำบกพร่อง หรืออะไรๆ ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนบกพร่องได้ โดยเฉพาะในเรื่องของพระธรรมเป็นเรื่องที่กว้างขวางสุดปัญญาที่ใครสามารถที่จะไปรู้ตามปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ อย่างมากที่สุดที่เป็นประโยชน์ที่สุดก็คือว่า เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้ว มีความเข้าใจสภาพธรรม นี้เป็นประโยชน์สูงสุด ถ้าเราเรียนตำราแล้วเราไม่สามารถที่จะรู้ว่าแท้ที่จริงสิ่งที่เราได้ยินได้ฟังทั้งหมดก็คือสิ่งที่กำลังมีจริงๆ เกิดแล้วดับแล้วอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้

    เพราะฉะนั้น เราซึ่งเป็นผู้ที่เห็นความห่างไกลของปัญญาของเรากับปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เริ่มที่จะฟัง พิจารณาได้ประโยชน์ ได้สาระ คือได้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ตัวตนอย่างไร ค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้น แต่ส่วนเรื่องของพยัญชนะที่มากมายน้้นเราเทียบได้ว่าเรารู้ หรือไม่ เรารู้แค่ไหน เราจะรู้ได้ หรือไม่ กับสิ่งที่กำลังมี และเราก็มีคำอธิบายภาษาของเราซึ่งเราใช้ตั้งแต่เกิดที่จะทำให้เราเข้าใจในสภาพธรรมนั้นได้ หรือไม่ ถ้าสามารถจะเข้าใจได้ นั่นคือประโยชน์ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมุ่งหมายให้ผู้ฟังได้เกิดความเห็นถูก ความรู้ถูกในสภาพธรรมที่มีจริงๆ ไม่ใช่เป็นการจำชื่อ หรือจำเรื่องราว หรือเข้าใจว่าอ่านมาก รู้มาก ยิ่งอ่านจะรู้ได้ว่ารู้ หรือไม่ รู้ตามนั้นจริงๆ ได้ หรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงคำเท่านั้น

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 51


    หมายเลข 6507
    18 ม.ค. 2567