การเจริญกุศลเป็นเรื่องยาก ไม่ใช่ง่าย -พฐ.56
ผู้ที่ยังไม่ได้ฟังพระธรรมในสมัยพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็เห็นโทษของกิเลส แต่ไม่มีปัญญาถึงการที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมว่าไม่ใช่ตัวตน เพราะฉะนั้น ที่จะทำได้อย่างมากก็คือ รู้ว่าขณะใดเป็นกุศล และกุศลนั้นอาศัยอะไรเป็นอารมณ์ แล้วก็ตรึกนึกถึงอารมณ์ที่ทำให้กุศลจิตเกิดบ่อยๆ จนกระทั่งความสงบตั้งมั่น มั่นคง เมื่อเกิดนิวรณธรรมคือไม่ว่าความยินดีพอใจในรูปในเสียงซึ่งห้ามไม่ได้ เช่น เวลาที่เราฟังธรรม เราห้ามจิตได้ไหม ขณะหนึ่งนึกถึงเรื่องโน้น อีกสักครู่ก็นึกถึงเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่กำลังฟังธรรม เพราะฉะนั้นขณะที่เป็นกุศลจิตอยู่ อกุศลจิตก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปัจจัย เพราะฉะนั้นผู้ที่กำลังระลึกถึงอารมณ์ที่ทำให้จิตสงบ ก็ยังมีวาระซึ่งมีปัจจัยให้อกุศลจิตเกิดแทรก แล้วแต่ว่าจะเป็นการคิดถึงรูป หรือเสียง หรือกลิ่น หรือรส หรือโผฏฐัพพะด้วยความพอใจ เป็นกามฉันทะ หรือว่าระลึกด้วยความขุ่นเคือง โกรธใครไว้แต่ไม่ได้ตั้งใจจะคิด ไม่ได้ตั้งใจจะนึกถึง แต่ก็เกิดคิดขึ้นแม้แต่ในขณะที่กำลังอบรมเจริญความสงบของจิต
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าต้องเป็นปัญญาอีกระดับหนึ่ง แต่แม้ว่าจะอบรมปัญญาขั้นนี้จนกระทั่งถึงความสงบของจิตที่เป็นอุปจารสมาธิ ใกล้ต่อการที่จะถึงความแนบแน่นในอารมณ์ที่เป็นอัปปนาสมาธิ หรือแม้ว่าจะถึงฌาณจิตแล้วเพียงหนึ่งขณะก็ต้องอบรมอีกมากกว่าจะคล่องแคล่ว กว่าจะเกิดได้จากปฐมฌาณ ถึงทุติยฌาณ ฌาณที่สอง ละวิตก วิจาร ไปถึงฌาณที่สาม ที่สี่ ที่ห้า จนถึงละรูปอารมณ์ไปถึงอรูปฌาณเป็นอารมณ์ ก็ยังไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ เพราะว่าไม่ใช่หนทางที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรม ยังมีความเป็นเราที่ถึงคุณธรรมนั้นๆ เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้ว่าเรื่องของการที่จะเจริญกุศล ยาก ไม่ใช่ง่าย
ที่มา ...