โลภมูลจิตเป็นสิ่งที่สติฯ ควรจะระลึกรู้ได้


    วันนี้ก็จะขอกล่าวถึงสราคจิตหรือโลภมูลจิต ซึ่งมีเป็นปกติในวันหนึ่งๆ แล้วก็เป็นสติปัฏฐาน เป็นสิ่งที่สติควรระลึกเพื่อรู้ เมื่อรู้ชัดแล้วก็จะละคลายความยึดถือโลภมูลจิตว่าเป็นตัวตนได้ เพราะเหตุว่าทุกท่านคงไม่อยากจะมีกิเลสสะสมไว้มากๆ โดยเฉพาะลักษณะของโลภมูลจิต ซึ่งเป็นธรรมชาติที่ตรึงไว้ให้แน่น แนบแน่นทีเดียวกับอารมณ์ ไม่ยอมให้พรากไปจากอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เป็นสภาพที่ยึดไว้ ตรึงไว้ ร้อยไว้ ในวัฏฏะ ในวันหนึ่งๆ ก็มีโลภะมากเหลือเกิน ถ้าไม่ระลึกรู้ ก็ไม่สามารถที่จะละคลายการที่เคยยึดถือโลภมูลจิตว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์เป็นบุคคลได้ ถ้าไม่มีปัญญาที่รู้ชัดจริงๆ กิเลสหมดไม่ได้ แล้วเรื่องของโลภมูลจิตนี้เป็นเรื่องที่ควรรู้อย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าทุกคนมีมากๆ ทุกๆ วัน ปัญหาก็คือว่า ในเมื่อทุกท่านได้เริ่มเจริญสติ ระลึกรู้ลักษณะของนามรูปบ้าง ทั้งตาบ้าง ทางหูบ้าง จมูกบ้าง ลิ้นบ้าง กายบ้าง ใจบ้าง แล้วแต่บุคคลว่าบุคคลนั้นเริ่มระลึกรู้ลักษณะของรูปหรือว่าเริ่มระลึกรู้ลักษณะของนาม ทั้งตาหรือทางหู อีกบุคคลหนึ่งก็อาจจะเริ่มระลึกรู้ลักษณะของนามหรือของรูป ทางจมูกหรือทางกาย นี่เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล เป็นเรื่องของสติที่บังคับบัญชาไม่ได้ ว่าจะให้เกิดการระลึกรู้ในลักษณะของนามหรือรูป ที่ไหน เมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นเวลาที่ท่านได้ฟังเรื่องจิตตานุปัสสนา สิ่งที่ข้ามไม่ได้ ก็คือสติควรที่จะระลึกรู้ลักษณะของจิต ในขณะที่ลักษณะนั้นๆ กำลังปรากฏ และโลภมูลจิตก็มีมาก แต่ว่าท่านเองเป็นผู้ทราบว่าท่านเริ่มระลึกรู้ลักษณะของสราคจิตหรือโลภมูลจิตบ้างแล้วหรือยัง ผู้เจริญสติทราบได้ใช่ไหม คนอื่นตอบไม่ได้นอกจากท่านเอง


    หมายเลข 6595
    31 ก.ค. 2567