สิ่งต่างๆ ที่เป็นโลกจะปรากฏไม่ได้เลย ถ้าจิตไม่เกิดขึ้นรู้สิ่งนั้น


    ข้อความในสังยุตตนิกาย สคาถวรรค อันธวรรคที่ ๗ จิตตสูตรที่ ๒ มีข้อความว่า ซึ่งพระผู้มีพระภาคตรัสตอบเทวดาว่า

    โลกทั้งหมด เป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่ง คือ จิต

    เวลานี้โลกของท่านผู้ฟัง คือ ที่นี่ กำลังอยู่ที่นี่ กำลังเห็น โลกเห็นมีสิ่งต่าง ๆ เห็นสิ่งต่าง ๆ โลกได้ยินก็มี ทั้งหมดนี้เป็นโลกที่กำลังเห็น กำลังได้ยิน แต่ลองพิจารณาตามความเป็นจริง ที่จะให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นในลักษณะของจิต ซึ่งเป็นสภาพรู้ ซึ่งเป็นธาตุรู้ว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นโลก ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ หรือได้ยินอยู่ในขณะนี้ จะปรากฏไม่ได้เลย ถ้าจิตไม่เกิดขึ้นรู้สิ่งนั้น ๆ

    เพราะฉะนั้นทางตาที่กำลังเห็นนี่เองปรากฏเพราะจิตเกิดขึ้นรู้ เป็นสภาพธรรมซึ่งเป็นเพียงธาตุรู้ เกิดขึ้นเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา

    เพราะฉะนั้นในขณะนี้เองสติสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ถ้ามีปัจจัยที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่บังคับนะคะ ผู้ที่เข้าใจเรื่องการเจริญสติปัฏฐานทราบว่า การฟังเป็นเพียงปัจจัย ที่สติจะเกิดหรือไม่เกิด แล้วแต่การสะสม

    ทางหูที่กำลังได้ยินนี้ ในขณะนี้เองเสียงกำลังปรากฏ ผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน สติจะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ จะระลึกลักษณะของเสียง เป็นสิ่งที่มีจริง กำลังปรากฏ รู้ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมชนิดหนึ่ง หรือว่าเพราะการฟัง จึงรู้ว่าเสียงที่กำลังปรากฏในขณะนี้ปรากฏได้เพราะจิตเกิดขึ้นรู้เสียงที่กำลังปรากฏนั่นเอง

    เพราะฉะนั้นก็จะน้อมพิจารณาลักษณะของสภาพรู้ ธาตุรู้ที่กำลังรู้ ซึ่งใช้คำว่า “จิต” เพราฉะนั้น ก็อย่าเพิ่งคิดว่า เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว เวลาที่พูดถึงเรื่องจิต แต่เวลานี้จิตกำลังมี กำลังเกิดขึ้น กำลังรู้ทางหู คือ ได้ยิน กำลังรู้ทางตา คือ เห็น เป็นสิ่งที่สามารถจะประจักษ์แจ้งชัดในสภาพธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนได้ แต่เพราะเหตุว่ายังไม่ประจักษ์นั่นเอง จึงต้องฟังอีกเรื่องของจิต ซึ่งเป็นสภาพที่มีจริง ที่กำลังเกิดขึ้นรู้สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา

    เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ก็คงจะไม่ลืมว่า ไม่ใช่เพื่อจะรู้มาก ๆ ว่าจิตมีกี่ดวง ประกอบด้วยเจตสิกอะไรบ้าง แบ่งเป็นประเภทอย่างไร แต่จุดประสงค์ แม้ว่าจะเรียนละเอียดอย่างนั้น ก็เพื่อจะรู้ชัดในสภาพของจิต ซึ่งเป็นนามธรรม ซึ่งเป็นธาตุรู้ ที่กำลังรู้ในขณะนี้


    หมายเลข 6705
    25 ส.ค. 2558