สติระลึกรู้ชัดขึ้นในสิ่งที่มีเป็นปรกติธรรมดาทุกอย่าง


    บางท่านไม่ค่อยจะเข้าใจสติปัฏฐาน หรือว่าอารมณ์ที่สติจะระลึกรู้ เป็นต้นว่าลักษณะที่อ่อนแข็งที่ปรากฏที่กาย หรือว่าความไม่แช่มชื่น ความหยาบกระด้างของจิตใจที่เกิดขึ้นในขณะนั้น แล้วสติก็ระลึกรู้เพียงชั่วขณะนิดเดียว เพราะว่าเป็นผู้เพิ่งเริ่มเจริญสติ ท่านก็ไม่ทราบเลยว่าแท้ที่จริงแล้ว สติปัฏฐานก็ไม่ใช่อย่างอื่นก็คือ ลักษณะแข็งที่กำลังปรากฏ หรือว่าความหยาบกระด้างของจิตที่กำลังปรากฏนั่นเอง แต่เพราะว่าเพิ่งเริ่มเจริญสติ ตัวตนก็มากมายเหลือเกิน แม้แต่เพียงชั่วขณะที่ระลึกนิดเดียว ความไม่รู้ชัดในสภาพธรรมนั้นมี ตัวตนก็เข้าไปแทรกเข้าไปทำให้ไม่รู้ขึ้น อวิชชาสวะก็เกิดขึ้นได้ เป็นสิ่งที่หมักดองสะสมต่อไปได้ นี่เป็นเรื่องที่ว่าไม่ใช่ว่าความรู้ชัดจะมีทันทีที่สติระลึกรู้ลักษณะของนาม หรือว่าเริ่มรู้ลักษณะของรูป แต่การรู้ชัดนั้นก็ไม่ใช่รู้ชัดในสิ่งอื่น นอกจากสิ่งที่ท่านเคยเริ่มระลึก เป็นปกติ เป็นประจำวันนั่นเอง แต่ว่าอาศัยที่การระลึกมีมากขึ้น บ่อยขึ้น ชินขึ้น ความรู้ชัดในลักษณะของสิ่งที่ปรากฏที่เคยเริ่มระลึกก็ถูกต้องชัดเจน ละคลายการยึดถือว่าเป็นตัวตนได้

    อารมณ์เป็นของธรรมดาเป็นปกติ แต่ว่าสติระลึกรู้ชัดขึ้น เย็นธรรมดาที่กำลังปรากฏในขณะนี้ เห็นธรรมดาปกติที่กำลังปรากฏในขณะนี้ เป็นปกติธรรมดาทุกอย่าง แต่ว่าวันหนึ่งปัญญาจะรู้ชัดได้ เพราะสติระลึกรู้ลักษณะของสิ่งนั้นเนืองๆ บ่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าวันหนึ่งท่านจะระลึกรู้ลักษณะของรูปสักชั่วขณะหนึ่ง ก็ขอให้มีจิตอาจหาญร่าเริง อย่าโทมนัส อย่าเสียใจว่า ท่านไม่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ในขณะที่สติระลึกรู้ลักษณะของนามนั้นแล้วหรือว่าในขณะที่สติระลึกรู้ลักษณะของรูปนั้นแล้ว เพราะว่าชั่วขณะนิดเดียวนั้น ทุกๆ ครั้งบ่อยเข้า จะทำให้ปัญญาสามารถที่จะรู้ชัดในลักษณะของสิ่งธรรมดาที่สติกำลังระลึกรู้ตามปกติในวันหนึ่งบ้างโดยอาศัยการระลึกรู้ที่ระลึกทีละน้อย


    หมายเลข 6771
    31 ก.ค. 2567