แขกมีหลายประเภท


    ผู้ฟัง ขอโทษนะครับ ผมสงสัยนิดหนึ่ง ที่ว่ามีแขกมาหานี้ เป็นคำของพระพุทธเจ้า หรือว่าอาจารย์เปรียบเทียบ

    ท่านอาจารย์ คงจะไม่ได้ใช้คำว่า แขก แต่อาจจะใช้คำอื่น ซึ่งจะขอกล่าวถึงต่อไป ถ้าเป็นคำอื่นที่ไม่มีในพระไตรปิฎก แต่ว่าจะช่วยให้เข้าใจได้ จะยอมรับไหมคะ เพราะว่าถ้าศึกษาต่อไปก็อาจจะอยู่ตอนหนึ่งตอนใดในพระไตรปิฎก แม้ว่าพยัญชนะอาจจะคล้ายคลึง เพราะแขกมีหลายประเภท ใช่ไหมคะ จริงหรือไม่จริง แขกคนนี้ไม่อยากเจอ มีไหมคะ ไม่อยากให้มาหา แขกบางคนก็รอ เมื่อไรจะมา ถูกไหมคะ

    เพราะฉะนั้นแขกก็มีประเภทต่าง ๆ ถ้าเป็นโจร คงไม่มีใครต้องการแขกชนิดนั้น ใช่ไหมคะ แต่ถ้าเป็นญาติสนิท มิตรสหาย ก็รอว่าเมื่อไรจะมา เพราะฉะนั้นแขกก็มีหลายประเภท แต่ว่าตามความเป็นจริง รูปเป็นเพียงรูปธรรม ไม่ได้มีเจตนาหวังดี หวังร้ายอะไรกับใคร เพราะเหตุว่ารูปธรรมไม่ใช่สภาพรู้ เสียงที่กำลังปรากฏเป็นแต่เพียงรูปธรรม เพราะฉะนั้นแขกที่เป็นโจร หรือแขกที่เป็นญาติ จะเป็นในขณะไหน เพราะเหตุว่ารูปธรรมเป็นเพียงรูปธรรม กุศลจิตหรืออกุศลจิตเกิดขึ้นในขณะที่มีอารมณ์นั้นปรากฏ อารมณ์กำลังปรากฏ ถ้าพอใจในอารมณ์นั้น โจรอยู่ที่นั่นเพราะเหตุว่าเป็นอกุศลธรรม อกุศลไม่เป็นมิตรกับใคร กุศลเหมือนญาติสนิท ซึ่งจะคอยเกื้อกูลอุปการะช่วยเหลือ ไม่ว่าจะยามใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นต้องรู้ลักษณะของจิตที่ต่างกันนะคะ อกุศลเป็นโทษ ไม่เป็นมิตร เป็นโจร


    หมายเลข 6866
    24 ส.ค. 2558