เพียงจะเข้าใจว่าจิตเกิดดับก็มีไม่ได้ ถ้าไม่ได้ฟัง
ผู้ฟัง ท่านอาจารย์กล่าวว่าการเห็นก็ต้องมีการเกิดแล้วดับ แต่เนื่องจากว่าเราไม่ทราบการดับแล้วก็เกิด ความต่อเนื่องกันตรงนี้ทำให้เห็นว่าไม่ได้มีการเกิดหรือไม่ได้มีการดับ
ท่านอาจารย์ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมมีโอกาสแม้เพียงจะเข้าใจอย่างนี้หรือไม่ เพียงจะเข้าใจก็ไม่มี ทั้งๆ ที่ความจริงก็เป็นอย่างนี้
ผู้ฟัง แต่ข้อพิสูจน์ได้ก็คือ ขณะนี้ก็เห็นแล้วเดี๋ยวก็ได้ยิน เพราะฉะนั้นตรงนี้พอที่จะเข้าใจได้แล้วว่าต้องมีการสลับกันเกิดขึ้น แล้วรู้สึกว่าตรงนี้จะเป็นข้อสำคัญในการที่จะพิจารณาอบรมเจริญสติปัฏฐานว่าขณะใด อะไรปรากฏ
ท่านอาจารย์ ฟังเข้าใจเรื่องราว ต้องเทียบเคียงหรือไม่ จึงจะเข้าใจยิ่งขึ้นได้ และก็ต้องรู้ด้วยว่าขณะที่ฟังไม่ใช่ความรู้ที่ประจักษ์ เพียงแต่ขณะนี้สภาพธรรมก็เกิดดับไป แล้วก็กำลังฟังเรื่องราวของสภาพธรรมนั้น เพราะฉะนั้นก็จะต้องกระทำให้แจ่มแจ้ง แต่ว่าด้วยความเข้าใจถูกว่าไม่มีตัวตน แต่เป็นการสะสมของสังขารขันธ์ คือ ฟังแล้วฟังอีก จนกระทั่งเข้าใจแล้วเข้าใจอีก จนกระทั่งสามารถจะระลึกลักษณะนั้น จนกระทั่งประจักษ์แจ้งได้ นี่คือทรงแสดงหนทางที่จะทำให้ประจักษ์แจ้งด้วย มิฉะนั้นเราจะกล่าวว่าเราเรียนธรรมแล้วเข้าใจ เข้าใจแค่เรื่องราว แต่ว่ายังไม่ได้รู้ความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นจนกว่าจะถึงขั้นของสติปัฏฐาน
ที่มา ...