เรื่องของอนุบาลคือเฝ้าตามรักษาความเห็นถูก ความคิดถูก
เรื่องของอนุปาละ หรืออนุบาล คือการที่จะเฝ้าตามรักษาความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ความคิดถูก เพราะแม้แต่พระธรรมที่ทรงแสดงจะเห็นได้ว่ามีอนุสาสนี คำที่ทรงแสดงบ่อยๆ และมีทั้งโอวาทะ หรือโอวาท เพราะเหตุว่าแม้จะทรงแสดงพระธรรมไว้มากมายให้คนที่ได้ฟังเกิดความเข้าใจ แต่กิเลสที่มากแสนมาก ใครจะให้โอวาทได้ ถ้าไม่ใช่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งแม้บางครั้งมีผู้ที่ทำผิด และทรงให้โอวาทผู้นั้นไม่รับก็มี ผู้รับก็มี
เพราะฉะนั้นก็จะเห็นการสะสมของจิต ซึ่งผู้ที่ไม่รับในตอนแรก ภายหลังรับก็มี นี่ก็เป็นเรื่องของกาลเวลาซึ่งเราไม่สามารถที่จะรู้ได้ เพราะเหตุว่าไม่ใช่เรา แต่ว่าเป็นธรรมทั้งหมด เพราะฉะนั้น การฟังพระธรรม ประโยชน์จริงๆ ก็คือเพื่อที่จะให้เข้าใจถูก เห็นถูกในสิ่งที่มี เป็นคำที่กล่าวบ่อยๆ ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอนุสาสนีบ่อยๆ บางคนอาจจะคิดว่าซ้ำ แต่ก็เพื่อที่จะให้เข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มี ในความเป็นอนัตตาซึ่งละยากมาก เพราะเหตุว่าโดยมากทุกคนอาจจะอยากละความไม่ดีแต่ไม่ละความเป็นเรา ก็เป็นได้ กุศลทั้งหลายที่ทำ เป็นอัตตาธิปไตยเพื่อตนเอง จะได้ดี จะได้ผลต่างๆ เหล่านี้ ก็เป็นเรื่องของการที่ว่ายังมีความเป็นเราอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าสละความเป็นเราได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็จะเห็นได้ว่าเป็นผู้ที่ได้ประพฤติตามพระธรรมที่ได้ทรงแสดงแล้ว
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราได้ยินได้ฟังจะซ้ำอยู่เสมอ เพราะกล่าวถึงสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ให้มีความมั่นคงที่จะรู้ว่าเป็นธรรม ยิ่งได้ฟังละเอียดก็จะทำให้ค่อยๆ ไตร่ตรอง และพิจารณาว่าเป็นอนัตตาอย่างไร เพื่อที่ถึงเวลาจริงๆ จะรู้ได้ว่ายากแสนยากที่จะสละความเป็นเราได้ เพราะว่าไม่เคยรู้ลักษณะของสภาพธรรมมานานเท่าไหร่ ขณะนี้สภาพธรรมก็เกิดดับแสนเร็วจนกระทั่งไม่ปรากฏความเกิดดับ นับวาระไม่ได้ว่ามากมายแค่ไหน จากขณะที่เป็นภวังค์ ซึ่งไม่มีอะไรปรากฏเลย แล้วมีการเห็นเกิดขึ้นแต่ไม่รู้ มากเท่าไหร่แล้ว ความไม่รู้ และความเป็นเรา แล้วจะให้หมด คิดดู ไม่ว่าจะขณะเห็น ขณะได้ยิน ขณะได้กลิ่น ขณะลิ้มรส ขณะรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ขณะที่กำลังคิดนึก ก็จะต้องเป็นปัญญาที่สามารถจะรู้ว่าขณะนั้นก็เป็นชั่วขณะหนึ่งที่เกิดขึ้นตามการปรุงแต่งของการสะสม
ที่มา ...