การมีโอกาสได้ฟังได้เข้าใจพระธรรม เพื่อให้รู้ตนเองว่ามีอกุศลมาก


    เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะได้ทราบว่า การที่ได้มีโอกาสฟังพระธรรม ได้เข้าใจเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน ได้ฟังเรื่องของจิตอย่างละเอียด ถึงวิถีจิตต่าง ๆ ในขณะที่มีการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย การคิดนึก ซึ่งเป็นชีวิตปกติประจำวันนี้ ให้ทราบว่า เพื่อประโยชน์ คือ ให้รู้ตัวเองว่า มีอกุศลที่สั่งสมมามากสักแค่ไหน ถ้าสติปัฏฐานไม่เกิด มีใครจะบอกได้ไหมว่า อกุศลลดน้อยลง เพราะเหตุว่าปัญญาไม่ได้รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วอกุศลนั้นจะลดน้อยลงได้อย่างไร แม้แต่เพียงตื่นขึ้นมาสบาย วันนี้สดชื่น ก็ไม่รู้แล้วว่า ขณะนั้นสั่งสมสันดานที่เป็นความพอใจอย่างละเอียด แล้วสั่งสมมาเท่าไรแล้วคะ ที่จะพอใจอย่างนี้ โดยไม่เห็นว่าเป็นโทษ ถ้าสติปัฏฐานไม่เกิด

    เพราะฉะนั้นการสั่งสมสันดานก็จะเห็นได้ว่า ทีละเล็กทีละน้อย ทีละวิถีไปนะคะ แล้วแต่ว่าจะเป็นจักขุทวารวิถี โสตทวารวิถี ฆานทวารวิถี ชิวหาทวารวิถี กายทวารวิถี มโนทวารวิถี แล้วในภพนี้ ในชาตินี้ มากสักเท่าไร ในภพก่อน ๆ ในชาติก่อน ๆ มากสักเท่าไร แล้วถ้าไม่อบรมเจริญสติปัฏฐาน ภพต่อ ๆ ไปจะเพิ่มขึ้นอีกมากสักเท่าไร และการที่จะให้ปัญญารู้แจ้งอริยสัจธรรมที่จะดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท จะเร็วหรือจะช้า ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ก็ไปทำกันมาเดือนสองเดือน ก็เป็นพระอริยบุคคล โดยที่ปัญญาไม่ได้รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง แม้แต่ลักษณะของสติ ซึ่งเป็นสภาพที่ระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ ก็ยังไม่รู้ว่ามีลักษณะอย่างไร

    เพราะฉะนั้นปัญญาที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง ก็ย่อมมีไม่ได้ แต่พระธรรมที่ทรงแสดงไว้โดยละเอียด เพื่อให้เป็นบุคคลผู้ไม่ประมาท ที่จะรู้จักสภาพธรรมตามความเป็นจริง แม้แต่การสั่งสมสันดาน ทุกท่านก็จะรู้ได้ว่า แต่ละท่านซึ่งต่างกันไป เพราะอกุศลชวนวิถีหรือกุศลชวนวิถีเกิดมากกว่ากัน ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย หรือทางใจ


    หมายเลข 6937
    24 ส.ค. 2558