เจริญสติปัฏฐาน คือ จิตทางมโนทวารเท่านั้นหรือไม่
ผู้ฟัง ที่ผมจะเรียนถามก็เรื่องเดียวกับเมื่อกี้นี้ แต่รู้สึกว่าเข้าใจว่า ตามที่อธิบายเมื่อกี้นี้ ก็เข้าใจว่า จิตที่เจริญสติปัฏฐาน ก็คือทางมโนทวารเท่านั้นใช่ไหม ที่ทำสติปัฏฐานกันนี้ทางมโนทวาร
ท่านอาจารย์ ชวนวิถีค่ะ ที่เป็นกุศลชวนะซึ่งได้ได้ทั้ง ๖ ทวาร
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ สติปัฏฐานเป็นการอบรมเจริญปัญญา รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริง ซึ่งตามปกติ ตามความเป็นจริง จิตเกิดขึ้นทีละขณะ กระทำกิจของจิตแต่ละประเภท แต่ละขณะ เวลาที่ยังไม่มีการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การกระทบสัมผัส ไม่มีการคิดนึก ไม่มีการฝัน ขณะนั้นไม่ใช่วิถีจิต ภวังคจิตไมใช่กุศลจิต ไม่ใช่ชวนวิถี เจริญสติปัฏฐานไม่ได้ เพราะเหตุว่าในขณะนั้นเป็นวิบากจิต
เพราะฉะนั้นเวลาที่นอนหลับสนิทจริง ๆ สติไม่ได้เกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ แต่ขณะที่เป็นวิถีจิต คือ ขณะใดก็ตามที่มีการเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นจักขุทวารวิถีจิตแต่ละขณะ เริ่มตั้งแต่ปัญจทวาราวัชชนจิตเป็นวิถีจิต จักขุวิญญาณเป็นวิถีจิต สัมปฏิจฉันนะเป็นวิถีจิต สันตีรณะเป็นวิถีจิต โวฏฐัพพนะเป็นวิถีจิต ชวนะเป็นวิถีจิต ซึ่งชวนะตามที่ได้ทราบแล้วว่า เป็นกุศลหรืออกุศล สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ และสำหรับผู้ที่เป็นพระอรหันต์แล้ว กุศลจิตและอกุศลจิตไม่มี เป็นกิริยา
เพราะฉะนั้นเมื่อกุศลเกิดที่ชวนวิถี สติซึ่งเป็นกุศลก็เกิดร่วมกับกุศลจิต แล้วแต่ว่าจะเป็นกุศลประเภทใด ซึ่งยากเหลือเกินที่จะมีใครสามารถแบ่งแยกวิถีจิตทางตาและทางใจซึ่งต่อกัน
เมื่อจักขุทวารวิถีจิตดับหมดไปแล้ว ภวังคจิตเกิดคั่นหลายขณะทีเดียว แล้วมโนทวารวิถีก็เกิดขึ้นรู้อารมณ์เดียวกับปัญจทวารวิถีที่ดับไป ถ้าเป็นจักขุทวารวิถี เห็นรูปใด มโนทวารวิถีก็มีรูปนั้นแหละเป็นอารมณ์ แม้ว่าไม่เห็น อย่าลืมนะคะว่า มีรูปนั้นเป็นอารมณ์ แม้ว่าไม่เห็น เช่นเดียวกับจักขุวิญญาณเป็นจิตประเภทเดียว ดวงเดียว ขณะเดียวที่ทำทัสสนกิจ คือ เห็นจริง ๆ แต่เมื่อดับไปแล้ว สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ โวฏฐัพพนะ ชวนะ ซึ่งเป็นกุศลหรืออกุศล หรือตทาลัมพนจิตก็รู้อารมณ์ คือ สิ่งที่ปรากฏทางตา แต่ไม่เห็น ฉันใด เวลาที่มโนทวารวิถีจิตเกิดต่อจากจักขุทวารวิถีจิต มโนทวารวิถีจิตตั้งแต่มโนทวาราวัชชนจิตก็ดี หรือว่าชวนวิถีที่เป็นกุศลหรืออกุศลก็ดี และตทาลัมพนจิตซึ่งเกิดต่อจากชวนวิถี ก็รู้รูปารมณ์ที่จักขุทวารวิถีเพิ่งรู้นั่นเอง แม้ว่าไม่เห็น
เพราะฉะนั้นจิตที่กระทำกิจรู้อารมณ์ทางมโนทวาร สามารถที่จะรู้อารมณ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา จักขุทวารวิถีจิตดับไปหมดแล้ว ภวังคจิตเกิดต่อ แล้วมโนทวารวิถีจิตก็เกิดขึ้น รู้รูปารมณ์ซึ่งจักขุทวารวิถีจิตรู้นั่นเอง