การอบรมเจริญสติปัฏบานไม่มีชื่อ ไม่มีบัญญัติ แทรก
เพราะฉะนั้น การอบรมเจริญสติปัฏฐาน ไม่มีชื่อ ไม่มีบัญญัติ เข้าไปคิดนึกคั่นหรือแทรก แต่ก็ห้ามไม่ได้อีก เช่นในขณะที่กำลังเห็นนี้ สติอาจจะระลึกนิดหนึ่ง รู้ว่ากำลังมีสิ่งที่ปรากฏจริง ๆ ยังไม่รู้อะไรมากค่ะ แต่รู้ว่าขณะนี้มีสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาจริง ๆ
นี่ก็แสดงถึงขณะที่มีสติเกิดขึ้น จึงระลึกรู้ว่า สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา มี ต้องอาศัยการระลึกอีกนะคะ แล้วพิจารณาน้อมที่จะรู้สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นแต่เพียงสภาพธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นไม่ใช่เป็นการนึกถึงว่า จักขุวิญญาณดับไปแล้ว สัมปฏิจฉันนะเกิดต่อ สันตีรณะเกิดต่อ โวฏฐัพพนะเกิดต่อ ชวนะขณะนี้กำลังเป็นกุศล ไม่ใช่อย่างนั้นเลยค่ะ
เวลาที่สติเกิดระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ เพื่อที่จะรู้ว่า สิ่งที่ปรากฏทางตา ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่เห็น ต้องแยกให้ออก
นี่คือการอบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม และในขณะนั้นก็ไม่ใช่การนึกว่า ขณะนี้เป็นกุศลจิตทางมโนทวารที่กำลังรู้ แล้วก็จะตัดวิถีจิตทางปัญจทวารที่เป็นกุศลออกไป ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเหตุว่ามหากุศลจิตเกิดได้ทั้ง ๖ ทวาร ในขณะที่เห็นเป็นมหากุศลจิตที่ประกอบด้วยสติพร้อมด้วยสัมปชัญญะ ที่รู้ลักษณะของรูปที่กำลังปรากฏได้สืบต่อกันทั้งทางมโนทวารวิถีและทางปัญจทวารวิถี
เพราะฉะนั้นไม่ใช่ขั้นคิดนึก แต่เป็นขั้นที่จะระลึกถึงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ จนกว่าสภาพธรรมนั้นจะปรากฏจริง ๆ ทางมโนทวารวิถี ซึ่งหมายความว่า มโนทวารวิถีต้องปรากฏ