วิถีจิตแรกทางปัญจทวารวิถี ได้แก่ อาวัชชนวิถี


    วิถีจิตแรกทางปัญจทวารวิถี แล้วแต่ว่าจะเป็นจักขุทวารวิถี หรือโสตทวารวิถี หรือฆานทวารวิถี หรือชิวหาทวารวิถี หรือกายทวารวิถี ก็ต้องเกิดขึ้นทีละวิถี และทีละขณะ เพราะฉะนั้นเวลาที่ภวังคจิตดับไปแล้ว

    วิถีที่ ๑ ทางปัญจทวาร คือ “อาวัชชนวิถี” ซึ่งได้แก่ ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง เป็นชาติ “กิริยา” ไม่ใช่กุศล อกุศล และไม่ใช่วิบาก

    ซึ่งข้อความในอัฏฐสาลินี แสดงลักษณะของจิตที่เป็นกิริยาจิตว่า

    เป็น “กิริยา” คือ เป็นเพียงการกระทำ

    และข้อความต่อไปแสดงลักษณะของกิริยาจิต ที่ต่างกันโดย “กิจ” ว่า

    ก็ในบรรดากิริยาจิตทุกดวงทีเดียว กิริยาจิตดวงใดไม่ถึงความเป็นชวนะ กิริยาจิตดวงนั้นย่อมไม่มีผล เหมือนดอกไม้ลม ซึ่งมาจากศัพท์ว่า “วาตบุปฺผํ” ซึ่งมูลฎีกาแก้ว่า “โมฆบุปฺผํ” หมายถึง ดอกไม้ที่ไร้ผล

    มีไหมคะ ดอกไม้ซึ่งไร้ผล มีหรือไม่มีคะ ไม่ใช่หมายความว่า เมื่อมีดอกแล้ว จะต้องมีผลเสมอไป แต่ว่าดอกไม้บางชนิด มีดอกจริง แต่ว่าเมื่อร่วงหล่นไปแล้ว ก็ไม่มีผล

    เพราะฉะนั้นกิริยาจิตก็เช่นเดียวกัน กิริยาจิตดวงใดไม่ถึงความเป็นชวนะ กิริยาจิตดวงนั้นย่อมไม่มีผล เหมือนดอกไม้ลม และกิริยาจิตที่ไม่ถึงชวนะ คือ ไม่เป็นชวนวิถีจิตนั้นก็มี ๒ ดวง คือ “ปัญจทวาราวัชชนจิต” ๑ ดวง ซึ่งเป็นอาวัชชนจิต กระทำอาวัชชนกิจทางปัญจทวาร และ ”มโนทวาราวัชชนจิต” ๑ ดวง ซึ่งกระทำโวฏฐัพพนกิจทางปัญจทวาร และทำอาวัชชนกิจทางมโนทวาร

    ส่วนกิริยาจิตอื่นซึ่งถึงความเป็นชวนะเป็นจิตของพระอรหันต์นั้น ข้อความในอัฏฐสาลินี อุปมาว่า

    กิริยาจิตดวงใดถึงความเป็นชวนะ กิริยาจิตดวงนั้นก็ไม่มีผล เหมือนดอกของต้นไม้ที่มีรากขาดเสียแล้ว จึงเป็นแต่เพียงการกระทำเท่านั้น เพราะเป็นไปด้วยอำนาจให้สำเร็จกิจนั้น ๆ

    นี่ก็เป็นการแสดงลักษณะที่ต่างกันของกิริยาจิตที่ไม่ถึงความเป็นชวนะ และที่ถึงความเป็นชวนะ เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ก็มีกิริยาจิต แต่ว่ามีเพียง ๒ ดวงเท่านั้น คือ ปัญจทวาราวัชชนจิตและมโนทวาราวัชชนจิต กิริยาจิตอื่นทั้งหมด ซึ่งต่อไปจะทราบว่ามีกี่ดวง เป็นของพระอรหันต์ทั้งสิ้น

    เพราะฉะนั้นพระอรหันต์ก็มีกิริยาจิตที่ไม่ถึงชวนะ ๒ ดวง คือ ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง มโนทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง และกิริยาจิตที่เป็นชวนวิถี เพราะพระอรหันต์ดับกุศลและอกุศลทั้งหมด จึงไม่มีชวนวิถีจิตที่เป็นกุศลและอกุศลเลย


    หมายเลข 6948
    24 ส.ค. 2558