จิตที่เป็นวิถี กับ จิตที่ไม่เป็นวิถี -พฐ.71
ผู้ฟัง ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องจิตที่เป็นวิถี กับจิตที่ไม่เป็นวิถี ว่ามีลักษณะอย่างไร
ท่านอาจารย์ เกิดมาหนึ่งขณะแล้วดับไป แล้วเห็นทันทีหรือไม่
ผู้ฟัง ไม่เห็น
ท่านอาจารย์ แต่มีจิตเกิดดับสืบต่อ ขณะที่อะไรๆ ก็ไม่ปรากฏเลย ขณะที่หลับสนิท รู้ไหมว่าชื่อสุกัญญา บ้านอยู่ที่ไหน มีเพื่อนชื่ออะไร ทำงานที่ไหน
ผู้ฟัง ไม่ทราบ
ท่านอาจารย์ อารมณ์ใดๆ ก็ไม่ปรากฏ นั่นคือภวังคจิต ฉะนั้นจิตที่ไม่ใช่วิถีก็คือ จิตที่ไม่ได้อาศัยทางหนึ่งทางใดเกิดขึ้นรู้อารมณ์อื่นที่ไม่ใช่อารมณ์ของภวังค์ เพราะภวังคจิตต้องมีอารมณ์ แต่อารมณ์ของภวังค์ ปฏิสนธิ และจุติจิต ไม่ได้ปรากฏเลย เพราะเหตุว่าสืบต่อจากอารมณ์ของจิตใกล้จุติของชาติก่อน การที่ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ปรากฏต้องอาศัยทวารหนึ่งทวารใด ฉะนั้นขณะนั้นไม่ใช่ภวังคจิต ภวังคจิต คือ ขณะที่อารมณ์ของโลกนี้ไม่ได้ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ฉะนั้นตอนหลับสนิทคือภวังค์ แต่ไม่ได้เป็นภวังค์ตลอดกาล เป็นไม่ได้ เมื่อมีเหตุปัจจัยที่จะทำให้จิตอื่นเกิดขึ้น เพราะจิตทุกประเภทจะเกิดขึ้นโดยไม่มีปัจจัยไม่ได้
เพราะฉะนั้นจิตอื่นทั้งหมดที่ไม่ใช่ภวังค์ จะชื่ออะไรก็ตาม เช่น ปัญจทวาราวัชชนะ ตทาลัมพนะ ชวนะ และชื่ออื่นๆ ทั้งหมดที่ต่อไปจะได้ยิน ที่ไม่ใช่ภวังค์ต้องเป็นวิถีจิตทั้งหมด เพราะอาศัยทางหนึ่งทางใดเกิดขึ้นรู้อารมณ์ที่ไม่ใช่อารมณ์ของภวังค์ และเมื่ออาศัยทางหนึ่งทางใดไม่ใช่ขณะเดียว ต้องหลายขณะเกิดดับสืบต่อจึงเป็นวิถีจิตแต่ละวาระหนึ่งๆ วาระของการรู้อารมณ์หนึ่งจะต้องมีหลายวิถีจิต ทั้งหมดเป็นวิถีจิต วิถีจิตเท่านั้นที่จะรู้อารมณ์ทางหนึ่งทางใด ถ้าไม่ใช่วิถีจิตจะรู้อารมณ์ทางนั้นไม่ได้ ต้องเป็นวิถีจิต
ผู้ฟัง สัมปฏิจฉันนะก็เป็นวิถีจิต
ท่านอาจารย์ ถูกต้อง
ผู้ฟัง หนึ่งวาระ
ท่านอาจารย์ ไม่ใช่ ต้องเป็นหนึ่งขณะ เพราะว่ารูปยังไม่ดับ (รูป ๑๗ ขณะยังไม่ดับ) เมื่อรูปดับไปแล้วภวังค์คั่นเมื่อไหร่ก็คือหนึ่งวาระ ขณะนี้กำลังกล่าวถึงรูปซึ่งมีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ ผู้ที่ทรงตรัสรู้ทรงแสดงโดยละเอียดว่าเวลาที่จิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้นโดยอาศัยทางหนึ่งทางใด จะเริ่มจิตที่เป็นวิถีจิตเมื่อไหร่
ผู้ฟัง ดังนั้น วิถีจิตแต่ละวิถีนี่ก็มีหลายวาระได้
ท่านอาจารย์ วาระหนึ่ง คือ การรู้อารมณ์ทางทวารหนึ่ง เมื่อหมดวาระนั้นมีภวังค์คั่น ก็นับเป็นวาระหนึ่งๆ แต่วาระหนึ่งมีหลายวิถี เพราะจิตที่ไม่ใช่ภวังค์เป็นวิถีจิตทั้งหมด ปัญจทวาราวัชชนะรู้อารมณ์ที่กระทบจักขุปสาทชื่อว่าจักขุทวาราวัชชนจิต เป็นวิถีจิตหรือไม่
ผู้ฟัง เป็นวิถีจิต
ท่านอาจารย์ เมื่อปัญจทวาราวัชชนะดับแล้วจิตอะไรเกิดต่อ
ผู้ฟัง จักขุวิญญาณ
ท่านอาจารย์ เป็นวิถีจิตหรือไม่
ผู้ฟัง เป็นวิถีจิต
ท่านอาจารย์ เพราะอะไร เพราะว่ารู้อารมณ์โดยต้องอาศัยจักขุปสาทเป็นทวาร จิตใดก็ตามที่เป็นวิถีจิต จะต้องอาศัยทวารหนึ่งทวารใดเป็นทางเกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้น จะไม่อาศัยทาง ไม่อาศัยทวารไม่ได้ ถ้าไม่อาศัยเมื่อไหร่เป็นภวังค์เมื่อนั้น
ผู้ฟัง มีวาระ และ ขณะ
ท่านอาจารย์ หนึ่งขณะของจิตมีขณะย่อย ๓ ขณะคือ อุปาทะ ฐิติ ภังคะ แล้วก็ดับ เป็นหนึ่งขณะใหญ่ แต่จริงๆ ไม่ใช่ตัวใหญ่ หมายความว่าในหนึ่งขณะยังสามารถจะต่างกันเป็น ๓ ขณะย่อย คือขณะเกิด ไม่ใช่ขณะดับ ขณะดับไม่ใช่ขณะที่กำลังตั้งอยู่ หรือไม่ใช่ขณะเกิด แม้ว่าจิตซึ่งเป็นนามธรรม ไม่มีรูปร่างใดๆ เลยทั้งสิ้น แต่สามารถที่จะเห็นการเกิดดับ และทรงแสดงว่าในหนึ่งขณะก็ยังต่างเป็น ๓ ขณะย่อย
ผู้ฟัง หนึ่งวาระหมายถึง อย่างไร
ท่านอาจารย์ อาศัยทวารหนึ่งทวารใดเกิดขึ้นรู้อารมณ์หนึ่งดับไป ประกอบด้วยวิถีจิตหลายขณะ และทุกขณะเป็นวิถีทั้งหมดเพราะต้องอาศัยทวารนั้นทวารเดียวกัน
ที่มา ...