อารมณ์คือสิ่งที่จิตรู้ มีแตกต่างกันไป


    อ.กุลวิไล อารมณ์ คือสิ่งที่จิตรู้ อารมณ์ก็จะมีแตกต่างกันไป อารมณ์ที่ประณีตต้องเป็นอารมณ์ที่ดี โดยเวทนาแล้วจะเห็นถึงความต่างกันของเวทนา โดยเฉพาะจิตที่เป็นสันตีรณจิต จะมีโสมนัสเวทนาด้วย และก็มีอุเบกขาเวทนาด้วย ซึ่งเป็นฝ่ายกุศลวิบากที่เป็นอเหตุกสันตีรณะกุศลวิบากจะมีเวทนาด้วยกัน ๒ อย่าง คืออุเบกขาเวทนา และ โสมนัสเวทนา นี้คือความต่างกันของอารมณ์ที่ประณีตกว่าอุเบกขาแน่นอน ท่านก็ทรงแสดงไว้ เช่น กรณีที่เราเห็นรูปกายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องเป็นอารมณ์ที่ประณีต ถ้าเทียบกับการที่เราเห็นสิ่งที่ดีอื่นๆ หรือได้ยินพระธรรม หรือได้ฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเช่นนี้ก็จะเป็นอารมณ์ที่ประณีตยิ่ง ฉะนั้นความต่างกันของอารมณ์ก็ยังต้องมีหลากหลาย ซึ่งแม้แต่เป็นอารมณ์ที่ดีก็ยังแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามการที่เราได้รับอารมณ์ไม่ว่าทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย นี้ก็คือผลของกรรมนั่นเอง แล้วก็เป็นสิ่งที่เราบังคับบัญชาไม่ได้ เพราะว่าสภาพธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา และเราก็ได้รับผลของกรรมก็ไม่พ้นทั้ง ๕ ทางนี้

    ท่านอาจารย์ คุณกุลวิไลกล่าวถึงรวมๆ แต่เมื่อแยกโดยทวารจะละเอียดกว่านั้นอีก แม้แต่แหวนเพชรหนึ่งวง เมื่อพูดรวมๆ ก็ดูเป็นอารมณ์ที่ประณีตใช่ไหม แต่ว่ากระทบแข็ง ยังไม่ได้พูดถึงสีเลย ฉะนั้นจะแยกออกไปเป็นแต่ละทวาร ทางจมูก กลิ่นอะไรก็ตาม รสอะไรก็ตาม ทางตา ทางหู ทางจมูก ลิ้น กาย ใจ คุณธีรพันธ์มีอารมณ์ที่ประณีตมากไหม

    อ.ธีรพันธ์ สำหรับผมยังไม่สามารถจัดว่าเห็นอารมณ์ที่ดียิ่งได้หรือไม่ แต่ว่าเห็นอารมณ์ที่พอจะดีปานกลางเท่านั้นเอง

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 71


    หมายเลข 6977
    22 ม.ค. 2567