กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
ผู้ฟัง
แล้วอีกเรื่องหนึ่ง พูดถึงเรื่อง “ตัณหา” มี ๓คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา แต่ส่วนใหญ่ผมได้ยินพระท่านพูดว่า กามตัณหา เป็นความยินดีติดใจในกามอารมณ์ ขณะที่มีความยินดีติดใจในกามอารมณ์ ขณะนั้นเป็น “กามตัณหา” และภวตัณหานี้ มีความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ขณะนั้นเป็น “ภวตัณหา” และ “วิภวตัณหา” ก็คือความไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น เช่น ไม่อยากเป็นคนหูหนวก ตาบอด ง่อยเปลี้ยเสียขา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นวิภวตัณหา ซึ่งผมเห็นว่า พูดเช่นนี้ไม่ตรงกับที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ ก็อยากให้อาจารย์แสดงว่า ตัณหาทั้ง ๓ นี้ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้อย่างไร
ท่านอาจารย์ โดยสั้น ๆ ก็คือว่า กามตัณหา คือ ความยินดีพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ ภวตัณหา มี ๒ คือ ความยินดีในภพ ๑ และอีกอย่างหนึ่ง คือ ความยินดีที่เกิดพร้อมด้วยความเห็นผิดว่าเที่ยง คือ สัสสตทิฏฐิ สำหรับวิภวตัณหา หมายถึงความยินดีพอใจในอุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าสูญ นี่เป็นตัณหา ๓ ที่แสดงไว้ในพระไตรปิฎก
หมายเลข 7002
24 ส.ค. 2558