แม้แต่จะให้ใครสนใจฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้าก็ยากเสียแล้ว


    ท่านอาจารย์ มีท่านผู้ใดสงสัยในเรื่องวิบากบ้างไหมคะ เชิญค่ะ

    ผู้ฟัง ผมเคยคิดว่า ความจริงแล้ว การทำบาป ผลจะต้องมี ทั้งนี้เพราะเรามีพื้นในเรื่องการศึกษาธรรมบ้าง แต่ถ้าเราพิจารณาถึงบุคคลทั่ว ๆ ไปที่เขาศึกษาบ้าง ไม่ได้ศึกษาบ้าง หรือศึกษานิด ๆ หน่อย ๆ เขาจะต้องปฏิเสธว่า ผลกรรมนี้ไม่มี เขาอาจจะเจาะเข้าถึงปัญหา เช่นปัญหาของท่านพระองคุลีมาลเถระว่า ทำบาปตั้งมากมาย แต่ผลที่สุดแล้วบาปนั้นไม่ได้ให้ผลเลย เพราะฉะนั้นก็แสดงว่าคำสอนหรือข้อปลีกย่อยอะไรต่าง ๆ เป็นเพียงส่วนประกอบ ซึ่งความจริงนั้นวิบากไม่มี เขาอาจจะเข้าใจเหมา ๆ หรือสรุปรวม ๆ อย่างนี้ได้ ที่ผมพูดนี้ ผมหมายถึงว่า เราไม่อยากจะเอาตัวรอดคนเดียว คือ คิดถึงคนทั้งหลายอื่น ๆ ที่ทำให้บ้านเมืองเรายุ่ง ๆ อยู่อย่างเดี๋ยวนี้ก็เพราะเขามีความคิดตามแนวทำนองอย่างนี้ แล้วเราจะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ ซึ่งทำให้บ้านเมืองเรายุ่งไม่สิ้นสุดเสียที อย่างน้อยก็ให้ค่อยยังชั่วลงบ้าง

    ท่านอาจารย์ ยากนะคะ เพราะว่าเพียงแต่อยากจะให้ผู้ใดสนใจ แม้แต่จะรับฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วทรงแสดงไว้ ก็ยากเสียแล้ว เพราะว่าบางท่านอาจจะเห็นว่า ไม่เป็นประโยชน์ บางท่านอาจจะเห็นว่าคร่ำครึ ไม่ทันสมัย เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ไม่รู้เลยว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องของธรรม ซึ่งเกิดปรากฏทุกยุคทุกกาลสมัยตามความเป็นจริง

    เพราะฉะนั้นท่านผู้ฟังที่หวังดีต่อคนอื่น ก็ศึกษาให้มาก ๆ จนกระทั่งเข้าใจละเอียด สามารถที่จะเป็นปัจจัยให้ประพฤติปฏิบัติตามได้จริง ๆ เพิ่มขึ้น และเป็นตัวอย่างของบุคคลอื่น แล้วถ้าสามารถจะเกื้อกูลบุคคลอื่นในด้านใด รวมทั้งการแสดงธรรมด้วยตามกาลเทศะที่สมควร ก็จะเป็นประโยชน์

    เพราะฉะนั้นสำหรับตัวท่านผู้ฟังนี้เชื่อแน่ในเรื่องของกิเลส กรรม วิบากหรือยังคะว่า ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องวิบากว่าจะไม่เกิดขึ้นหรือจะหมดแล้ว จะหมดวิบาก ไม่มีทางจะหมดได้ เพราะว่ากิเลสยังไม่หมด เมื่อกิเลสยังไม่หมด กรรมก็ต้องไม่หมด เมื่อกรรมไม่หมดแล้ววิบากนั้นจะหมดได้อย่างไร

    เพราะฉะนั้นในชีวิตตามความเป็นจริง ท่านแสวงหาวิบากหรือเปล่า แม้ว่าท่านรู้ว่า ท่านไม่หมดวิบาก ทุกคนจะต้องมีวิบากตลอดไป จนกว่าจะตาย ถึงตายแล้วก็ยังต้องมีวิบากทำกิจปฏิสนธิในภูมิต่างๆต่อไปอีก แล้วยังจะไม่จบอีก ยังต้องมีวิบากต่อไปอีก


    หมายเลข 7005
    24 ส.ค. 2558