กุศล อกุศล เกิดต่อหลังเห็น หลังได้ยิน


    ผู้ฟัง แล้วกุศล และอกุศลจะเกิดอย่างไรต่อไปอีก

    ท่านอาจารย์ เมื่อเวลาที่เห็นแล้ว หยุดไม่ได้อีกเหมือนกัน แค่เห็นจะต้องมีโลภะ โทสะ โมหะ หรืออโลภะ อโทสะ อโมหะ คือเป็นกุศลหรือเป็นอกุศลสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ แต่สำหรับพระอรหันต์ดับทั้งกุศล และอกุศลจึงเป็นกิริยาจิต อกุศลนั้นแน่นอน อกุศลเจตสิกจะเกิดไม่ได้เลย แต่โสภณเจตสิกยังเกิดได้ เพราะว่าถึงกาละที่จิตจะพ้นจากอเหตุกะเป็นสเหตุกะ นี่คือความเกี่ยวข้อง ถ้าขณะที่เพียงเห็น เพียงได้ยินคือ ๑๘ ดวงนั้นก็เป็นอเหตุกะ ถ้าจักขุวิญญาณไม่มีเหตุเกิดร่วมด้วยในภูมิมนุษย์ และในสวรรค์ จักขุวิญญาณก็มี จักขุวิญญาณของเทวดาจะมีเหตุเกิดร่วมด้วยไหม ไม่มี เหตุ คือ โลภะ โทสะ โมหะ หรืออโลภะ อโทสะ อโมหะ จักขุวิญญาณของเทวดาบนสวรรค์จะมีเหตุเกิดร่วมด้วยไหม ไม่มี นี่คือธรรม เป็นหนึ่งไม่เป็นสอง ทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรม เปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย รูปพรหมเกิดในรูปพรหมภูมิไม่ใช่เทวดาชั้นกามวจร แต่เป็นชั้นพรหม มีจักขุวิญญาณ มีตาเห็น จักขุวิญญาณของรูปพรหมบุคคลจะมีโลภะ โทสะ โมหะ หรือ อโลภะ อโทสะ อโมหะเกิดร่วมด้วยได้ไหม ไม่ได้ นี่เป็นการที่เราจะเรียนจิตใดก็คือจิตนั้นซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลยจากการตรัสรู้ จิตเห็นจะเกิดกับมนุษย์ เกิดในนรก เกิดกับเปรต เกิดกับนก เกิดกับปลา เกิดกับเทวดา เกิดกับพรหม จิตเห็นก็เป็นจิตเห็นซึ่งเป็นวิบาก เป็นผลของกรรม ไม่มีเหตุ ๖ เกิดร่วมด้วยเลย เป็นอเหตุกะตลอด นี่คือธรรมเปลี่ยนไม่ได้

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 73


    หมายเลข 7036
    22 ม.ค. 2567