วิบากมีแต่ในผู้นับถือพระพุทธศาสนาหรือไม่


    ผู้ฟัง พูดถึงเรื่องวิบาก เลยทำให้ต้องคิดกว้างขวางมากไปหน่อย เพราะถ้าเราพูดในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนิกชนด้วยกัน ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ทีนี้ถ้าพูดถึงว่า ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นการที่ปฏิบัติตรงกับหลักศาสนาพุทธน้อยมาก แต่บุคคลเหล่านั้นก็ยังสามารถที่จะมีวิบาก เสวยความสุขอยู่ในโลกนี้ได้ ลักษณะนี้ใช่ไหมที่ทำให้พระพุทธเจ้าท่านห้าม ไม่ต้องให้คิดว่า เขาทำกรรมอะไร เขาถึงความสุข เพราะถ้าหากว่า ถ้าเราจะพูดตามหลักศาสนาพุทธแล้ว ก็หมายความว่า บุคคลเหล่านั้นน่าจะต้องเคยเกิดเป็นผู้ที่นับถือพุทธศาสนาในอดีตชาติมาก่อน เพราะมิฉะนั้นแล้วผลนี้ก็ไม่น่าจะมี ที่อยากจะพูดนี่ ก็อยากจะวิเคราะห์ในฐานะที่นับถือศาสนาด้วยกัน คริสต์ก็ดี ศาสนาอิสลามก็ดี ก็ยังค่อยยังชั่ว เพราะว่าเขาก็ยังมีโอกาสที่จะได้ทำความดีบ้าง แต่ผู้ที่ตรงกันข้ามกับศาสนาเลย เช่นผู้ที่นับถือลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างนี้ รู้สึกว่าการมองหาวิบากไม่ค่อยพบเลย เพราะบุคคลเหล่านี้สามารถจะมาครองความสุขอยู่ได้อย่างผู้บริหารของเขา อย่างนี้ก็เลยทำให้คิดไปคิดมา วิบากนี้มีเฉพาะในเรื่องของผู้ที่นับถือศาสนาหรืออย่างไร

    ท่านอาจารย์ ตาก็ดี หูก็ดี จมูกก็ดี ลิ้นก็ดี กายก็ดี เป็นศาสนาอะไรคะ ตา เป็นศาสนาอะไร เห็น เป็นศาสนาอะไร หู ได้ยิน เป็นศาสนาอะไร จมูก การรู้กลิ่น เป็นศาสนาอะไร ลิ้น สภาพธรรมที่ลิ้มรส เป็นศาสนาอะไร การกระทบสัมผัสสิ่งที่ปรากฏ เป็นศาสนาอะไร เป็นสภาพธรรมที่มีจริง สามารถที่จะพิสูจน์ได้ กล่าวถึงได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อ

    ยังมีข้อสงสัยอะไรไหมคะ แล้วแต่ว่าใครต้องการที่จะรู้สภาพธรรมที่มีจริง ๆ หรือไม่ต้องการที่จะรู้


    หมายเลข 7088
    23 ส.ค. 2558