ลักษณะของผัสสะมีแน่ แต่ไม่ปรากฏ อยากให้ปรากฏหรือไม่


    ผู้ฟัง อันนี้ยากแน่ครับ ทั้ง ๆ ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว เราจะมารู้ตามก็ยังยาก ทั้ง ๆ ที่อ่านไปแล้วก็เข้าใจ แต่ว่าไม่ประจักษ์ลักษณะ มันยากอย่างนี้ ถ้าประจักษ์ลักษณะแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร เช่น ผัสสเจตสิก พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า รูปารมณ์ จักขุวิญญาณ จักขุปสาท ธรรม ๓ อย่างนี้ เมื่อประชุมกันเมื่อไร เป็นผัสสะ อ่านดูแล้วก็เข้าใจ แต่ว่าลักษณะของผัสสะไม่ปรากฏ เพราะฉะนั้นในเมื่อเข้าใจแล้ว ก็ยังไม่รู้อยู่นั่นแหละ

    ท่านอาจารย์ ลักษณะของผัสสะมีแน่ ใช่ไหมคะ รับรอง แล้วก็ไม่ปรากฏแน่ด้วย ใช่ไหมคะ อยากจะให้ปรากฏหรือเปล่า อยาก ผิดเสียแล้วไงคะ คือ อยาก สภาพธรรมใดก็ตามที่ปรากฏ สติควรที่จะระลึกรู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏเสียก่อน อย่าไปอยากรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ยังไม่ได้ปรากฏ อยากสักเท่าไรก็ไม่ปรากฏ แล้วก็จะไม่มีวันปรากฏเพราะความอยาก

    ผู้ฟัง ที่อยากปรากฏ เพราะรู้ว่ามันมี

    ท่านอาจารย์ มีทั้งนั้นค่ะ เจตสิกมีถึง ๕๒ ประเภท แต่ว่าขณะนี้เจตสิกอะไรปรากฏ ถ้าไม่ปรากฏก็อย่าอยาก แต่เริ่มรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏเสียก่อน อย่างโลภะ ปรากฏเป็นประจำ รู้ด้วยใช่ไหมคะว่า ชอบสิ่งไหน ใครชอบอาหารอะไร ผลไม้อะไร สีอะไร เสียงอะไร ทุกคนก็รู้ แต่แม้อย่างนั้น สติก็ยังไม่ได้ระลึกรู้ในลักษณะของความยินดี ความติด ความพอใจ ความชอบซึ่งเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ขณะที่เห็น หรือขณะที่ได้ยิน หรือในขณะที่ได้กลิ่น หรือในขณะที่ลิ้มรส หรือในขณะที่กระทบสัมผัส หรือในขณะที่คิดนึก

    เพราะฉะนั้นแม้โลภะซึ่งมีอยู่เป็นประจำ แล้วก็ยังรู้ด้วยว่าเป็นความชอบ เป็นความพอใจ แต่สติก็ยังไม่ได้ระลึกรู้ตรงลักษณะของโลภะ ซึ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏเสียก่อน ไม่ต้องอยากอะไรทั้งนั้น เพราะเหตุว่ามีสภาพธรรมที่ปรากฏให้ระลึกรู้ ซึ่งควรรู้ก่อน


    หมายเลข 7145
    23 ส.ค. 2558