อุปมาสัญโญชน์ การผูกไว้ในภพทั้ง ๓
นอกจากนั้นท่านพระสารีบุตรยังได้อุปมาสังโยชน์ การผูกไว้ในภพทั้ง ๓ ว่า
“กามภพ” อุปมาเหมือนคอกโค ส่วน “อวิชชา” เป็นเหมือนเสาหลักที่คอกของลูกโค
สังโยชน์ทั้ง ๑๐ คือ ทั้งโอรัมภาคิยสังโยชน์และอุทธัมภาคิยสังโยชน์ เป็นเหมือนเชือกสำหรับผูกลูกโคที่เสาหลัก และสัตว์ที่เกิดแล้วในภพทั้ง ๓ เป็นเหมือนลูกโค
เพราะฉะนั้นก็ขออุปมาท่านทั้งหลายเหมือนกับลูกโค โดยนัยการแสดงธรรมของท่านพระสารีบุตร ซึ่งท่านกล่าวว่า
ชนทั้งหลายทำคอกแล้วก็ปักหลักเอาไว้ในคอก แล้วเอาเชือกผูกลูกโค แล้วก็ผูกไว้กับหลักในคอก แต่พอเชือกไม่พอ ก็จับหูของลูกโคบางตัว แล้วก็ต้อนเข้าไปในคอก แต่ว่าไม่ได้ผูก และเวลาที่ที่ว่างในคอกมีน้อย เต็มแล้ว ก็เอาหลักไปปักไว้ข้างนอกคอกอีก แล้วก็เอาเชือกผูกลูกโค แล้วก็ผูกไว้กับหลักข้างนอกคอก ถ้าเชือกไม่พอก็จับหูของลูกโค แล้วก็ปล่อยเอาไว้ข้างคอกนั้น
เพราะฉะนั้น “กามภพ” ก็อุปมาเหมือนคอกโค ซึ่งมีหลักปักไว้ แล้วก็เอาเชือกผูกลูกโค ผูกไว้กับหลักซึ่งปักไว้ในคอก
แต่เพราะเหตุว่า ลูกโคมีมาก ที่ว่างในคอกไม่พอ เพราะฉะนั้น ก็ปักหลักไว้ข้างนอกคอกด้วย แล้วก็เอาเชือกผูกลูกโคไว้ แล้วก็ผูกไว้ที่หลัก ที่ปักไว้ข้างนอกคอกด้วย แต่สำหรับโคบางตัว ก็เพียงแต่จับหูแล้วไม่ได้ผูก เพราะเห็นว่าเชือกไม่พอ