เราฟังพระธรรมไปทำไม


    ผู้ฟัง แม้กระทั่งการฟัง บางครั้งนี่ก็ฟังมากๆ หมายความว่าไม่ได้ตรึกตรอง ไม่ได้ใคร่ครวญใช่ไหม ไม่น้อมไปตามคำสอน

    ท่านอาจารย์ นี่เป็นเหตุที่แม้ฟังธรรมแล้ว บางคนก็ยังมีกาย วาจา ซึ่งเป็นไปในทางฝ่ายอกุศลมาก แต่ถ้ารู้จริงๆ ว่าเราฟังทำไม ฟังพระธรรมทำไม ฟังเพื่อเป็นความรู้เท่านั้น หรือ ฟังเพื่อที่จะได้ประพฤติปฏิบัติตาม ประการนี้สำคัญที่สุด ถ้ามีปัญญามีความเข้าใจถูก ความเข้าใจถูกนั้น ก็เริ่มที่จะขัดเกลากิเลส แต่ต้องรู้ว่าอะไรไม่ดี ที่มีสติระลึกได้ถึงวาจาการกระทำที่ผ่านไปแล้วก็เพื่อที่จะรู้ว่า ก่อนฟังพระธรรมนี่อกุศลมากมายเหลือเกิน และฟังแล้วก็มีความรู้พอที่จะละอกุศลนั้นๆ หรือยัง ถ้ายังก็ต้องอบรมเจริญต่อไปอีก แม้แต่เพียงเล็กน้อยก็เห็นว่าเป็นโทษที่จะต้องละ

    ผู้ฟัง หมายความว่าเราฟังตลอดเวลาแล้วได้น้อมคำสอน และได้ตรึกไปเรื่อยๆ ก็ย่อมจะเป็นการที่ให้เราเสพให้คุ้นอย่างนั้นหรือไม่

    ท่านอาจารย์ เป็นการสะสม เพราะกว่าจะถึงวันนี้ ผ่านมาแล้วไม่รู้ว่ากี่ชาติ ทำมาแล้วเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ก็มาถึงวันนี้ขณะนี้ซึ่งจิตได้สะสมความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น

    ผู้ฟัง ปัญญาที่กว่าจะเกิดได้ ซึ่งมันเป็นแสงอ่อนมากใช่ไหม

    ท่านอาจารย์ คงไม่ลืมที่พระผู้มีพระภาคตรัส เมื่อภิกษุกล่าวแก่งแย่งกัน ใครกล่าวดีกว่ากัน ใครกล่าวนานกว่ากัน เป็นต้น พระองค์ตรัสว่า รู้ทั่วถึงธรรมที่พระองค์ทรงแสดงแล้วหรือยัง เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ได้ฟังธรรมจะมากหรือน้อย จะคิดว่าท่วมหัวไม่ท่วมหัวก็ตาม รู้ทั่วถึงธรรมที่พระองค์ทรงแสดงแล้วหรือยัง ถ้ายังก็คือว่าต้องศึกษา ต้องรู้ขึ้น ไม่ใช่ว่าเมื่อไม่รู้ก็ไม่รู้ไปเลย แต่ต้องเข้าใจจริงๆ ว่าไม่รู้ เพียงแค่รู้ขั้นฟังไม่ใช่หมายความว่ารู้ลักษณะของสภาพธรรม

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 85


    หมายเลข 7226
    22 ม.ค. 2567