โลกียจิตเป็นปัจจัยให้โลกุตตรจิตเกิดต่อได้อย่างไร
ท่านอาจารย์ มีข้อสงสัยอะไรบ้างไหมคะในเรื่องของภูมิ
ผู้ฟัง อาจารย์ครับ โปรดอธิบายตอนนี้ให้ผมเข้าใจสักหน่อย เพื่อจะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนผู้มาฟังทั้งหลาย โลกียจิตที่จะหมดจะสิ้นสุด แล้วจะเข้าถึงโลกุตตรผลจิต จะเกิดติดต่อกันโดยอย่างไร
ท่านอาจารย์ โดยปัจจัยค่ะ
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ เหมือนอย่างทางตา จักขุวิญญาณ คือ สภาพรู้สิ่งที่ปรากฏทางตา หรือพูดง่ายๆว่าเห็น จิตที่เห็นเกิดที่จักขุปสาท แล้วก็ดับที่จักขุปสาท เป็นปัจจัยให้สัมปฏิจฉันจิตเกิดที่หทยวัตถุ แต่รู้รูปารมณ์ที่ปรากฏทางจักขุปสาทต่อ โดยความเป็นปัจจัย แต่ที่เกิดนี้ก็ห่างกันแล้วใช่ไหมคะ จิตดวงหนึ่งเกิดที่จักขุปสาท ดับที่จักขุปสาท เป็นปัจจัยให้จิตดวงต่อไปเกิดที่หทยรูป หทยวัตถุ แต่ว่ารู้อารมณ์เดียวกัน คือ รู้อารมณ์ทางจักขุทวาร
เพราะฉะนั้นเวลาที่บุคคลใดก็ตามอบรมเจริญปัญญา รู้ความเกิดดับของสภาพธรรมจนกระทั่งปัญญาคมกล้าที่จะละคลายความติดในการเห็นสภาพธรรมเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน เวลาที่มรรควิถีจิตจะเกิด มหากุศลจิตซึ่งมีไตรลักษณ์ลักษณะหนึ่งลักษณะใดของลักษณะ ๓ เป็นอารมณ์ ที่เป็นอนิจฺจํ หรือทุกฺขํ หรืออนตฺตา ในขณะนั้นดับไป จิตต่อไปเป็นโคตรภูจิต หมายความว่าข้ามจากความเป็นปุถุชนสู่การที่จะเป็นพระอริยเจ้า เมื่อโคตรภูจิตดับ เพราะเหตุว่าโคตรภูจิตนี้มีนิพพานเป็นอารมณ์จริง แต่ยังไม่ได้ดับกิเลส ตามปัจจัย
ถ้าไม่มีมหากุศลเกิดก่อน ที่จะมีไตรลักษณ์ลักษณะใดลักษณะหนึ่งเป็นอารมณ์ โคตรภูจิตก็เกิดมีนิพพานเป็นอารมณ์ไม่ได้ ถ้าโคตรภูจิตยังไม่มีนิพพานเป็นอารมณ์ โลกุตตรมรรคจิตจะเกิดขึ้นดับกิเลสก็ไม่ได้
เพราะฉะนั้นจิตแต่ละดวงที่เกิดสืบต่อกัน ก็มีปัจจัยที่จะให้จิตประเภทนั้นๆเกิดขึ้นสืบต่อกัน ถ้าไม่มีการอบรมเจริญสติปัฏฐานเลย จะประจักษ์ความเกิดดับของนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาของสภาพธรรมก็ไม่ได้
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ มีหนทางเดียวค่ะ ไม่มีหนทางอื่นเลย สภาพธรรมกำลังปรากฏ ถ้าระลึกไม่ได้ ที่จะพิจารณาที่จะศึกษาที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ก็ไม่มีการที่จะประจักษ์แจ้งในธาตุรู้ซึ่งเกิดดับอย่างรวดเร็ว หรือในรูปที่ปรากฏซึ่งเกิดดับอย่างรวดเร็ว ในรูปขณะต่างๆเป็นนามธรรมขณะต่างๆ ซึ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนเกิดดับสืบต่อกันตามเหตุตามปัจจัย
เวลาที่ยังไม่ถึงเรื่องของโลกุตตรจิตก็เข้าใจยาก แต่ก็ให้ทราบว่า โลกุตตรจิตเกิดเพราะเหตุปัจจัย สืบเนื่องมาจากการอบรมเจริญสติปัฏฐาน