ถ้าไม่รู้ลักษณะของเวทนา อาจจะคิดว่า อกุศล เป็น กุศล


    สำหรับเวทนา ๕ ก็ได้เรียนให้ทราบแล้วว่า สุขเวทนาเกิดกับกายวิญญาณจิต ๑ ดวง ทุกขเวทนาเกิดกับกายวิญญาณจิต ๑ ดวง โทมนัสเวทนาเกิดกับโทสมูลจิต ๒ ดวง โสมนัสเวทนาและอุเบกขาเวทนาเกิดกับจิตที่เป็นกุศลก็ได้ ที่เป็นอกุศลก็ได้ ที่เป็นวิบาก ที่เป็นกิริยาก็ได้แต่สำหรับโทมนัสเวทนานั้นเกิดกับจิตที่เป็นกุศล วิบาก กิริยาไม่ได้ โทมนัสเวทนานั้นจะเกิดได้เฉพาะกับจิตที่เป็นอกุศล คือ โทสมูลจิตเพียง ๒ ดวงเท่านั้น

    ถ้าไม่รู้อย่างนี้ บางท่านอาจจะคิดว่า อกุศลเป็นกุศล เช่น เวลาที่เกิดความรู้สึกสงสาร เวลาที่เห็นบุคคลอื่นประสบกับความทุกข์ยากเดือดร้อน ใคร่ที่จะช่วยเหลือให้บุคคลนั้นพ้นจากความทุกข์ยาก ในขณะที่เกิดจิตที่ประกอบด้วยความกรุณา สภาพธรรมที่เป็นกรุณาเจตสิก ขณะนั้นเป็นกุศลจิต แต่ต้องระวังนะคะ จะต้องรู้ลักษณะของเวทนาในขณะนั้นว่า เป็นความไม่แช่มชื่นหรือเปล่า ถ้าขณะนั้นประกอบด้วยความรู้สึกโทมนัส เสียใจ ไม่แช่มชื่น ในขณะนั้นเป็นอกุศลจิต

    ถ้ารู้อย่างนี้ก็จะละคลายความรู้สึกที่เสียใจ โทมนัส หรือไม่แช่มชื่น แล้วสามารถที่จะช่วยเหลือบุคคลอื่นให้พ้นจากความทุกข์ยากด้วยจิตที่ไม่ได้โทมนัส ไม่ได้เสียใจ หรือว่าไม่แช่มชื่น แต่ต้องรู้ว่า เป็นอกุศล จึงจะละได้ จึงจะคลายได้ เพราะว่าโดยมากบางท่านเข้าใจว่า ถ้าเห็นคนอื่นเป็นทุกข์เดือดร้อน ก็จะต้องพลอยเศร้าโศกเสียใจ เป็นทุกข์กับบุคคลนั้นด้วย แต่ว่าตามความเป็นจริงแล้ว ความรู้สึกเสียใจ ความโทมนัสเป็นอกุศล ไม่ใช่กุศล

    เพราะฉะนั้นเวลาที่เห็นบุคคลอื่นเดือดร้อน ก็พอที่จะระลึกถึงสภาพเวทนา ความรู้สึกของท่านได้ว่า ขณะนั้นเป็นความรู้สึกประเภทใด ถ้าเป็นความรู้สึกโทมนัส ทราบได้ทันทีว่าเป็นอกุศล ซึ่งไม่ควรจะให้เกิดขึ้น สามารถที่จะช่วยบุคคลอื่นได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นทุกข์ โทมนัส หรือว่าเดือดร้อนใจ


    หมายเลข 7306
    20 ส.ค. 2558